ทนายครอบครัว ฮ้อแสงชัยผู้เสียหายจากคดีเบนซ์พุ่งชนฟอร์ดเสียชีวิต ตัดสินใจขอให้ตำรวจแจ้งข้อหาเพิ่ม หลังติดใจวิธีการขับรถของนายเจนภพ วีรพร ว่าเข้าข่ายขับรถเล็งเห็นผลให้ผู้อื่นได้ รับอันตรายและเสียชีวิต
วิเชียร ชุบไธสง ทนายความครอบครัวฮ้อแสงชัย ในคดีที่นายเจนภพ วีรพร ขับรถเบนส์พุ่งชนฟอร์ต เป็นเหตุให้นางสาวธันฐภัทร์ ฮ้อแสงชัย บุตรสาวของ นายทิวากร ฮ้อแสงชัย เสียชีวิตในที่เกิดเหตุเปิด ระบุว่า ครอบครัวของนายทิวากร ได้ติดตามคดีนี้ มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เกิดเหตุและจะเดินทางไปติดตามคดีที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาขอให้ตำรวจแจ้งข้อหาเพิ่ม หลังติดใจวิธีการขับรถของนายเจนภพว่าเข้าข่ายขับรถเล็งเห็นผลให้ผู้อื่นได้รับอันตรายและเสียชีวิต
เนื่องจากได้สังเกตจากคลิปการชนที่เผยแพร่ในโซเชียลมีเดีย พบว่า นายเจนภพได้เหยียบเบรคก่อนปล่อยความเร็วพุ่งชนท้ายรถผู้เสียชีวิต โดยไม่มีความพยายามในการหักหลบแสดงให้เห็นความตั้งใจให้เกิดอุบัติเหตุ แต่ทั้งนี้จะแจ้งข้อหาเพิ่ม หลังพนักงานสอบสวนเก็บข้อมูลหลักฐานการเหยียบเบรคของนายเจนภพ และวิถีการชนได้ครบถ้วนเสียก่อน
นอกจากนี้ ด้านทนายความครอบครัวฮ้อแสงชัย ยืนยันว่า ครอบครัวเชื่อมั่นการทำงานของพนักางนสอบสวนชุดใหม่ เพราะคดีนี้ ตำรวจยืนยันจะสรุปสำนวนส่งฟ้องอัยการในเดือนเมษายนนี้ ทั้งนี้ ต้องการให้มีการดำเนินคดีเป็นไปตามความยุติธรรม และต้องการให้สังคมได้รับประโยชน์จากคดีนี้เพื่อไม่ให้เหตุการณ์เกิดขึ้นซ้ำ
ขณะที่นายวันชัย สอนศิริ นักกฎหมายมหายชน เปิดเผยว่า ผู้เสียหายสามารถแจ้งข้อกล่าวหาในคดีเจตนาเล็งเห็นผล ต่อพนักงานสอบสวนเพิ่มเติมได้ หากมี พยานหลักฐานเพิ่มเติม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวิธีดำเนินการในขั้นตอนของพนักงานอสอบสวนตามรูปคดี
ส่วนผลการสอบสวนข้อเท็จจริงการทำงานของ ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรพระอินทร์ราชา และ 2 พนักงานสอบสวน ชุดเดิม พบว่า ปฎิบัติหน้าที่ไม่เป็นไปตามระเบียบข้อบังคับของทางราชการ ทำงานล่าช้า โดยไม่รับเรื่องราวร้องทุกข์ในทันที อยู่ระหว่างการถูกระบุโทษ ซึ่งตำรวจทั้ง 3 นาย ยอมรับความบกพร่อง