กระทรวงสาธารณสุข ระบุแม้ สารทัลคัม ที่ถูกนำมาสะกัดเป็นส่วนผมในแป้งฝุ่นทาร่างกาย นั้น จะเป็นสารธรรมชาติ แต่จัดอยู่ในกลุ่มสารอนินทรีย์ ที่เสี่ยงต่อการเกิดโรค หากสารนี้เข้าสู่ร่างกายโดยเฉพาะในจุดซ่อนเร้นอาจเกิดการสะสมก่อให้เกิดเชื้อโรค 

ผู้อำนวยการสำนักควบคุมเครื่องสำอาง สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. กระทรวงสาธารณสุข  ชี้แจงความกังวลต่อการปนเปื้อนแร่ใยหินในแป้งฝุ่นยี่ห้อหนึ่ง  เพื่อไม่ให้ประชาชนรู้สึกและมีความตื่นตระหนก ลังจากพบว่า มีผู้ป่วยและเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งรังไข่ หลังจากใช้แป้งเด็ก เป็นระยะเวลานานติดต่อกัน โดยสำนักควบคุมเครื่องสำอาง ยืนยันว่า ที่ผ่านมาทำการเฝ้าระวังมาโดยตลอด โดยได้สุ่มตรวจเก็บตัวอย่างแป้งฝุ่น 40 ยี่ห้อ ในปี 2553 และปี 2556 เก็บตัวอย่าง 73 ยี่ห้อ รวมถึงยี่ห้อที่กำลังเป็นกระแสข่าวในขณะนี้ ซึ่งได้ทำการตรวจสอบสารตกค้างโดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ไม่พบการตกค้างของแร่ใยหินในยี่ห้อใด

นอกจากนี้ ส่วนประกอบหลักของการผลิตแป้ง คือทัลค์ หรือทัลคัม เป็นแร่หินชนิดหนึ่ง ที่ได้มาจากาเหมืองทัลดค์ เป็นสารอนินทรีย์ ไม่ย่อยสารด้วยจุลินทรีย์จากธรรมชาติ มีคุณสมบัติเกาะติดผิวหนังดี ลดความชื้นที่ผวิหนัง ซึ่งโดยทั่วโลกนิยมนำมาผลิตแป้งฝุ่น โดยมีสัดส่วนมากถึงร้อยละ 90 ของส่วนประกอบ นอกจากนี้ยังเป็นส่วนประกอบหลักในแป้งรองพื้น แป้งน้ำ เป็นต้น  

และทัลคัมที่นำมาใช้ผลิตแป้งนั้น อย. ได้กำหนดตามพรบ.เครื่องสำอาง ให้ผู้ผลิตแป้งฝุ่น คัดเลือกทัลคัมเกรดดีที่สุด ซึ่งอยู่ในเกรดเดียวกับการผลิตยา  ส่วนแร่ใยหิน หรือ Asbestos ที่ปนเปื้อน อาจเกิดจากกระบวนการผลิต ซึ่งประเทศไทยได้ตรวจสอบและสั่งห้ามมาโดยตลอด ส่วนกรณีที่ทาแป้งที่อวัยวะจุดซ่อนเร้นนั้น อาจเกิดจากการสะสมสารบางอย่าง ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงหนึ่งในการเกิดมะเร็ง  ทั้งนี้ยังไม่มีผลงานวิจัยใด ชี้ชัดว่าแป้งเป็นตัวก่อให้เกิดโรคมะเร็ง แต่ต้องดูที่วิธีการใช้แป้งด้วย 

เมื่อวานนี้ (24 ก.พ.59)ศาลมิสซูรีตัดสินให้ ผู้ผลิตแป้งเด็ก ยี่ห้อหนึ่ง จ่ายเงินชดเชยมูลค่า 72 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 2,570 ล้านบาท ให้กับครอบครัวหญิงวัย 62 ปี ที่เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งรังไข่ หลังจากใช้แป้งเด็กและผลิตภัณฑ์อื่นของ จอห์นสันซึ่งผสมสารทัลคัมมาเป็นระยะเวลาหลายปี