กลุ่มพลเมืองโต้กลับ เตรียมสู้ต่อชั้นฎีกา หลังศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ยกคำร้องฟ้อง พล.อ.ประยุทธ์และคณะรัฐประหาร

สมาชิกกลุ่มพลเมืองโต้กลับ เดินทางมาฟังคำสั่งศาลอุทธรณ์ ในคดีที่สมาชิกและผู้สนับสนุนกลุ่มจำนวน 14 คน เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. กับพวกรวม 5 คน ในข้อหากบฏล้มล้างการปกครองโดยใช้กำลังข้มขู่ประทุษร้าย ซึ่งในคดีนี้ ศาลชั้นต้นได้ยกคำร้อง โดยให้เหตุผลว่าแม้คดีนี้จะอยู่ในอำนาจรับฟ้องของศาลอาญา และจะมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองโดยใช้กำลังจริง แต่ก็มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 ซึ่งมีมาตรา 48 ระบุละเว้นความผิดของคณะรัฐประหารเอาไว้แล้ว

โดยในชั้นอุทธรณ์นี้ โจทก์ได้ยกเหตุผลแย้งคำพิพากษาศาลชั้นต้น ชี้ว่าการออกมาตรา 48 มาละเว้นโทษคณะรัฐประหาร ถือเป็นการผิดครรลองประชาธิปไตย

อย่างไรก็ตาม ศาลพิเคราะห์แล้ว มีความเห็นเช่นเดียวกับศาลชั้นต้น คือมาตรา 48 มีผลประกาศใช้ในรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวแล้ว ส่วนปัญหาข้อกฎหมายที่ว่ามาตรา 48 ถูกต้องตามครรลองประชาธิปไตยหรือไม่นั้น ศาลอุทธรณ์เห็นว่าเป็นคนละส่วนที่ต้องพิจารณาแยกกัน ออกจากเนื้อหาในคำร้องนี้ จึงเห็นสมควรให้พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ยกคำร้องของกลุ่มพลเมืองโต้กลับ

นายอานนท์ นำภา ทนายความสิทธิมนุษยชนและหนึ่งในผู้ร้อง กล่าวว่าทางกลุ่มจะยื่นขอให้ศาลฎีกาวินิจฉัยในคดีนี้ต่ออย่างแน่นอน โดยจะยื่นในเหตุผลเดิมที่ยื่นมาในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์

ด้าน นายพันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ สมาชิกกลุ่มพลเมืองโต้กลับและหนึ่งในผู้ร้อง กล่าวว่าในส่วนที่ศาลอุทธรณ์ มีความเห็นว่ามาตรา 48 เป็นกรณีที่ต้องแยกการพิจารณาออกไปเป็นคนละส่วนนั้น ทางกลุ่มจะไปหารือ เพื่อดำเนินการ ไม่ว่าจะในทางกิจกรรม หรือในทางกฎหมาย ตามที่ศาลได้แนะนำมาต่อไป