แม้รัฐบาลไทยจะยืนยันว่าไม่ได้ปกปิดข้อมูลเรื่องผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 แต่หลายประเทศได้ประกาศเตือนให้พลเมืองของตัวเองเฝ้าระวังหรือหลีกเลี่ยงการเดินทางมายังประเทศไทย รวมถึงมีคำสั่งให้คนไทย หรือผู้ที่เดินทางไปจากประเทศไทย จะต้องถูกกักบริเวณ 14 วัน เพื่อรอดูอาการในระยะฟักตัว เพราะเกรงว่ากลุ่มคนเหล่านี้อาจติดเชื้อไวรัส
ประเทศล่าสุดที่ประกาศว่าจะกักตัวพลเมืองไทย หรือผู้ที่เดินทางไปจากประเทศไทย ได้แก่ 'อิสราเอล' ทำให้กระทรวงการต่างประเทศของไทยเตือนผู้ที่มีแผนจะเดินทางไปยังอิสราเอลให้พิจารณาเลื่อนการเดินทางออกไปก่อน ส่วนพื้นที่อื่นๆ ที่อิสราเอลประกาศเฝ้าระวังเช่นกัน ได้แก่ สิงคโปร์ ฮ่องกง และมาเก๊า ซึ่งเป็นการประกาศเตือนเพิ่มเติมจากจีนแผ่นดินใหญ่ ที่มีการเฝ้าระวังอย่างเข้มข้นตั้งแต่ช่วงที่มีการประกาศปิดเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ยของจีนไปเมื่อวันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา
ขณะที่ 'อังกฤษ' ประกาศเตือนพลเมืองของตัวเองเช่นกันว่า ผู้ที่เพิ่งเดินทางกลับจากจีน ไทย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์ มาเลเซีย และมาเก๊า ในระยะ 14 วันที่ผ่านมา ถ้ามีอาการไอหรือมีไข้ แม้เพียงเล็กน้อย ก็จะต้องกักบริเวณตัวเองอยู่ในที่พักอาศัย อย่าออกไปเจอผู้คน และโทรแจ้งสำนักงานสาธารณสุขแห่งชาติให้เจ้าหน้าที่มาติดตามอาการ จนกว่าจะแน่ใจว่าปลอดภัยจากการติดเชื้อไวรัส ส่วนการเดินทางไปกลุ่มประเทศที่กล่าวมาข้างต้น ถ้าเลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยงเช่นกัน
ทางด้าน 'เกาหลีใต้' ประกาศเตือนพลเมืองของตัวเองตั้งแต่ต้นเดือน ก.พ.ว่าให้หลีกเลี่ยงการเดินทางมายังไทย สิงคโปร์ และญี่ปุ่น เพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัส เพราะก่อนหน้านี้รัฐบาลเกาหลีใต้ยืนยันว่า พลเมืองของตนติดเชื้อหลังจากเดินทางมายังไทย
ส่วนพลเมืองไทยที่เดินทางไปเกาหลีใต้ก็จะถูกตรวจสอบและเฝ้าระวังเช่นกัน โดยมีรายงานว่านักเรียนไทยที่ไปศึกษาต่อในเกาหลีใต้ได้รับคำสั่งให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังสถานที่ที่มีคนจำนวนมาก เข้าข่าย 'กักบริเวณ' อย่างไม่เป็นทางการนั่นเอง
นอกจากนี้ แม้รัฐบาลจีนจะประกาศว่าสถิติผู้ติดเชื้อไวรัสฯ รายใหม่ในประเทศจะลดลงอย่างต่อเนื่องมาหลายวันแล้ว แต่เมื่อวันที่ 17 ก.พ.ที่ผ่านมา รัฐบาลท้องถิ่นในมณฑลหูเป่ยเพิ่งจะประกาศห้ามประชาชนในพื้นที่เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว และผู้ที่ฝ่าฝืนคำสั่งถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลท้องถิ่นจีนผ่อนผันให้สมาชิก 1 คนในแต่ละครอบครัว สามารถเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวเพื่อไปซื้อเสบียงอาหารและข้าวของเครื่องใช้ได้ทุกๆ 3 วัน ส่วนการเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะและรถไฟระหว่างเมือง หรือระหว่างมณฑล เพิ่งได้รับอนุญาตให้เปิดบริการอีกครั้งเมื่อวันที่ 11 ก.พ.ที่ผ่านมา แต่การเดินทางโดยเครื่องบินจากมณฑลหูเป่ยและพื้นที่ใกล้เคียงยังถูกระงับจนถึงตอนนี้
ขณะที่ประเทศทางฝั่งตะวันตก เช่น สหรัฐอเมริกา อังกฤษ สวิตเซอร์แลนด์ แคนาดา และกลุ่มประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปที่ใช้วีซ่า 'เชงเกน' ร่วมกัน ประกาศเตือนพลเมืองของตัวเองให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังประเทศจีนและเมืองอู่ฮั่น ซึ่งเป็นต้นตอการแพร่ระบาดของไวรัส โดยระบุว่าให้ปฏิบัติตามคำเตือนนี้ไปจนกว่าจะมีคำสั่งยกเลิก
ส่วนประเทศอื่นๆ ที่มีคำสั่งห้ามเครื่องบินจากประเทศจีนทั้งหมดเข้าประเทศ ส่วนใหญ่อยู่ในเอเชียและตะวันออกกลาง รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านของไทยในอาเซียน ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ลาว และเวียดนาม
ทั้งนี้ เว็บไซต์ International SOS ซึ่งรวบรวมคำเตือนด้านการเดินทางทั่วโลก รายงานว่าประเทศไทยยังไม่มีคำสั่งห้ามนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมายังไทย แต่มีเงื่อนไขระบุว่า ชาวจีนที่เดินทางเยือนไทยต้องมีใบรับรองแพทย์ว่าตรวจสุขภาพแล้วไม่พบเชื้อโควิด-19 ขณะที่ผู้เดินทางจาก 'สิงคโปร์' และ 'ญี่ปุ่น' จะถูกตรวจสอบและคัดกรองอย่างละเอียดจากเจ้าหน้าที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข โดยเข้มงวดเทียบเท่าผู้เดินทางมาจากจีน
ที่มา: International SOS/ NHK/ Times of Israel/ UK Travel Advisory
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: