เศรษฐกิจ
คลังพร้อมโอนเงินเข้า E-Money ให้ผู้ถือบัตรคนจนทุกรายกว่า 14 ล้านคน
นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สศค. ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า หลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2562 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอไปแล้วเมื่อวันที่ 20 ส.ค. ที่ผ่านมาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและบรรเทาภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชนผู้มีรายได้น้อย ในวันที่ 22- 23 ส.ค. นี้ กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลังพร้อมโอนเงินเข้าช่องกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ หรือ E-Money ให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐทุกรายจำนวน 14.7 ล้านคน จะได้รับเงินช่วยเหลือพยุงการบริโภคเพิ่มอีกจำนวน 500 บาทต่อคนต่อเดือน ในส่วนของผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะได้รับเงินช่วยเหลือเพิ่มจำนวน 500 บาทต่อคนต่อเดือน จะได้รับเงินโอนในวันที่ 22 ส.ค. นี้รวมถึงผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ดูแลบุตรและเด็กเล็กที่มีอายุ 0 - 6 ปี ให้ได้รับเงินช่วยเหลือเพิ่มอีกจำนวน 300 บาทต่อคนต่อเดือน ภายใต้โครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จะได้รับเงินโอนในวันที่ 23 ส.ค. นี้
ทั้งนี้ การบรรเทาค่าครองชีพผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐทั้ง 3 กลุ่มดังกล่าวจะเป็นมาตรการช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพของผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็นระยะเวลา 2 เดือนระหว่างเดือน ส.ค. – ก.ย. นี้ซึ่งผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐทุกคนจะได้รับเงินโอนจำนวน 500 บาทอีกครั้งระหว่างวันที่ 6-8 ก.ย. นี้
สำหรับเงินช่วยเหลือผู้สูงอายุจำนวน 500 บาทต่อเดือนต่อคน และผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ที่ดูแลบุตรและเด็กเล็กที่มีอายุ 0 - 6 ปีจำนวน 300 บาทต่อคนต่อเดือน กรมบัญชีกลางจะเติมเงินเข้าช่องกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ หรือ E-Money ให้อีกครั้งในวันที่ 9 ก.ย. นี้เพื่อนำไปใช้ซื้อสินค้าและบริการผ่านเครื่องรับชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ หรือ EDC แอปพลิเคชันถุงเงินประชารัฐที่จำหน่ายผ่านร้านธงฟ้าประชารัฐทั่วประเทศกว่า 50,000 ร้านค้า หรือสามารถถอนเงินสดจากเครื่องถอนเงินอัตโนมัติมาใช้ได้ตามความจำเป็น
อย่างไรก็ตาม กระทรวงการคลังคาดว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2562 จะช่วยบรรเทาค่าครองชีพให้แก่ผู้มีรายได้น้อยช่วยให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นและสร้างแรงส่งให้เศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปี 2562 และปี 2563 ขยายตัวเพิ่มสูงขึ้น
ATM กรุงไทยในโคราช แบงก์ 100 กับ 500 หมดเกลี้ยง หลังปชช. แห่กดเงินบัตรคนจนแต่เช้า
ที่จังหวัดนครราชสีมา เช้าวันนี้ (21 ส.ค.) ตู้เอทีเอ็ม (ATM) ของธนาคารกรุงไทย หน้าร้านหมอยาพลาซ่า ในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา ได้มีประชาชนนำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐมากดเงินกันอย่างคึกคัก ภายหลังจากที่กรมบัญชีกลาง ได้โอนเงินเข้ากระเป๋า E-Money ของบัตรสวัสดิการแห่งรัฐลอตแรกวันนี้
โดยผู้มีสิทธิที่มีเลขบัตรประชาชนขึ้นต้นด้วยเลข 31, 33, 37, 38 และ 39 จะได้รับเงินโอนเข้าบัตรจำนวน 500 บาท ส่งผลให้มีประชาชนเดินทางมาต่อคิวหน้าตู้ ATM ของธนาคารกรุงไทยทุกสาขา ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา อย่างเนืองแน่น จนกระทั่งตู้ ATM ธนาคารกรุงไทยเกือบทุกแห่ง มีปัญหาเงินธนบัตร 100 และ 500 บาท หมดตู้ เหลือเพียงธนบัตรใบละ 1,000 บาท ประชาชนที่มากดช้าต้องผิดหวังไปตามๆ กัน
นางฐานิตา กิรักษา อายุ 68 ปี ชาว อ.เมืองนครราชสีมา หนึ่งในผู้ที่นำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐมากดเงิน และผิดหวังเพราะเงินหมดกล่าวว่า ตนเองตั้งใจที่จะมากดเงินสดจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งรัฐบาลจะโอนให้จำนวน 500 บาท เพื่อนำไปซื้อของอุปโภคบริโภคใช้ แต่มาแล้วปรากฏว่าเงินในตู้ ATM ธนบัตรใบละ 100 และ 500 บาทหมด เหลือเพียงธนบัตรใบละ 1,000 บาท จึงผิดหวังมาก ดังนั้นก็จะไปหากดที่ตู้อื่น ซึ่งก็มีคนบอกว่าหลายตู้เงินหมดเช่นกัน ถ้ายังไม่ได้เงินก็คงจะต้องรอตอนบ่าย หรือรอถึงวันพรุ่งนี้ (22 ส.ค.) ถึงอย่างไรก็ตาม ก็ต้องขอขอบคุณรัฐบาลที่ให้เงินมาซึ่งสามารถช่วยบรรเทาความเดือดร้อนสำหรับคนจนได้เป็นอย่างดี
ด้านนางต่วน นาคแท้ อายุ 89 ปี ชาว อ.เมืองนครราชสีมา ซึ่งเป็นอีกคนหนึ่งที่ยังหากดเงินจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไม่ได้ กล่าวว่า ตนเองตระเวนไปหากดเงินหลายตู้ ATM แล้ว แต่ก็ปรากฎว่าเงินธนบัตร 100 และ 500 บาทหมดทุกตู้ ตอนนี้ก็เลยไม่รู้จะทำอย่างไร ต้องรอให้เจ้าหน้าที่ธนาคารนำเงินมาใส่ไว้ให้ใหม่ ซึ่งไม่รู้ว่าตอนไหน ตนคิดว่าที่เงินหมดคงจะเป็นเพราะว่าคนแห่มากดเงินกันตั้งแต่เช้ากันหมด ถ้าได้เงินมาก็คงจะไว้ซื้อของกินของใช้ เพราะเงินจำนวน 500 บาทนี้มีค่ามากสำหรับคนจนอย่างตน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
