กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง หรือ ทช. โดยศูนย์วิจัย ทช. อ่าวไทยตอนกลาง เปิดผลชันสูตรซากวาฬที่นำขึ้นฝั่งที่ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี โดยเป็นวาฬบรูด้า เพศผู้ ยาว 10.8 เมตร หนักประมาณ 10 ตัน สภาพซากเน่า เมื่อเทียบรูปพรรณพบว่าเป็นวาฬที่พบในบริเวณอ่าวไทยตอนบนชื่อ "เจ้าเด่น" ซี่งมีการสำรวจและบันทึกการพบ ไว้ตั้งแต่เดือน ก.ค. 2560
- ผ่าพิสูจน์ซากวาฬที่อำเภอท่าชนะ จังหวัดสุราษฎร์ธานี
โดยผลการชันสูตรพบว่า วาฬมีรอยแผลเป็นในบริเวณเพดานปาก ผิวหนังส่วนใหญ่หลุดลอก พบรอยถลอกบนลำตัวทั้ง 2 ข้าง อวัยวะเพศโผล่ยื่นออกมาเนื่องจากการเน่า กล้ามเนื้อบริเวณโคนหาง และบริเวณสะบักมีการบวม แดงและการคั่งของเลือด ซึ่งเป็นลักษณะที่เกิดการบอบช้ำ พบลิ่มเลือดภายในช่องท้องเล็กน้อย ซึ่งแสดงว่าวาฬมีการตกเลือดในช่องท้องเล็กน้อยก่อนตาย ภายในหัวใจไม่มีเลือด ซึ่งเกิดจากการบีบตัวก่อนตาย บ่งชี้ว่าวาฬเกิดการช็อกก่อนตาย พบฟองอากาศในหลอดลมและพบลิ่มเลือดในหลอดลมภายในปอด ซึ่งแสดงว่ามีการตกเลือดปอดก่อนตาย เนื้อปอดปกติ
ส่วนในระบบทางเดินอาหารไม่พบอาหารตลอดทางเดินอาหาร โดยพบเพียงส่วนของลูกตาปลาในกระเพาะอาหารหลัก และพบก้างปลาขนาดเล็กในส่วนของลำไส้ใหญ่ ซึ่งแสดงว่าวาฬไม่สามารถหาอาหารได้มาเป็นระยะเวลาหนึ่ง และระบบการย่อยอาหารไม่ดีเท่าที่ควร เนื่องจากพบเศษก้างปลาอยู่ ไม่พบปัสสาวะในกระเพาะปัสสาวะ อวัยวะอื่น ๆ เช่น ตับ ม้าม ไต เป็นต้น เน่าสลายจนไม่สามารถระบุความผิดปกติได้ เนื่องจากซากเน่าจึงไม่สามารถระบุสาเหตุการตายได้แน่ชัด แต่วาฬอาจมีการป่วยและสำลักน้ำก่อนตาย ทางเจ้าหน้าที่ได้เก็บชิ้นส่วนผิวหนังเพื่อศึกษาวิจัยงานด้านพันธุศาสตร์ และมีการเก็บตัวอย่างตับเพื่อตรวจหาสารชีวพิษต่อไป ทั้งนี้ ทาง จ.สุราษฎร์ธานีจะเก็บโครงกระดูกเพื่อใช้ในการจัดแสดงให้ความรู้แก่ชุมชน
- ภาพขณะล่างซากวาฬตัวดังกล่าวเข้าฝั่ง
โดยเมื่อวันที่ 20 มิ.ย. ที่ผ่านมา นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ลงพื้นที่ หมู่ที่ 7 ตำบลท่าชนะ อำเภอท่าชนะ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ตรวจสอบซากวาฬขนาดใหญ่ตายลอยอยู่กลางอ่าวท่าชนะ ห่างจากชายฝั่งประมาณ 4 กิโลเมตร และประสานเจ้าหน้าที่ประมงอำเภอท่าชนะนำเรือประมงของชาวบ้านออกไปลากเข้าชายฝั่ง เพื่อรอการตรวจสอบการตาย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
