International Policy Digest วิเคราะห์ ไทยเป็นคนป่วยแห่งเอเชีย ที่ต้องรักษาด้วย 'ยาจีน' ซึ่งมีค่าใช้จ่ายแพงแสนแพง
International Policy Digest เว็บไซต์วิเคราะห์นโยบายต่างประเทศและการเมืองของสหรัฐฯ เผยแพร่บทความที่ระบุว่าไทยเป็นคนป่วยแห่งเอเชีย โดยเปรียบเทียบกับการที่ซาร์นิโคลัสแห่งรัสเซียเคยกล่าวไว้ในปี 1853 ว่าตุรกีเป็น "ชายผู้ป่วยไข้แห่งยุโรป" แต่แม้ว่าซาร์นิโคลัสจะทำนายอาการป่วยของตุรกีได้ถูกต้อง แต่ตุรกีก็ใช้เวลาอีกถึง 70 ปีหลังจากคำเตือนนั้น ก่อนจะพ่ายแพ้ต่ออาการเจ็บป่วย เกิดการปฏิวัติประชาชนขึ้น คำถามก็คือ ไทยจะใช้เวลานานขนาดนั้นหรือไม่ รัฐบาลทหารจะสามารถลากประเทศที่ป่วยไข้ไปได้นานเช่นนั้นหรือ?
International Policy Digest มองว่า แม้โลกยุคปัจจุบันจะหมุนไปไวกว่าเมื่อ 100 ปีที่แล้ว แต่ในไทยโลกดูจะไม่หมุนไปเร็วเท่าที่อื่นๆ รัฐบาลไทยในปัจจุบันพอใจที่จะหมุนเวลากลับไปในศตวรรษที่ 19 ทั้งที่ในทุกๆผลสำรวจที่สามารถตรวจวัดความป่วยไข้ของรัฐบาลไทยได้ ก็ผลออกมาตรงกันทั้งสิ้นว่าความเจ็บป่วยนั้นรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ แต่รัฐบาลก็ไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่าการปราบการทุจริตคอรัปชั่น ที่ดูแล้วเป็นการกำจัดศัตรูทางการเมืองและผู้ที่ต่อต้านตนเอง มากกว่าจะกำจัดคนโกงจริงๆ เพราะคนที่โกงจริงๆส่วนใหญ่อยู่ในฝั่งของรัฐบาลนั่นเอง การปราบทุจริตคอรัปชั่นอย่างจริงจังจึงเป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้
การเยียวยาไทยที่ป่วยไข้ จำเป็นต้องใช้ยา และยาขนานเดียวที่ไทยรับตอนนี้ ก็คือ "ยาจีน" ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวจีนที่หลั่งไหลเข้ามาจับจ่ายใช้สอย หรือเมกะโปรเจ็คโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ โดยเฉพาะทางรถไฟ แถมจีนและไทยยังช่วยกันปราบปรามผู้เห็นต่าง วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลด้วย ถือเป็นยาที่ไทยมองวาดีกว่ายาขม "ประชาธิปไตย" ที่ชาติตะวันตกพยายามป้อนให้ และยาจีนยังเข้ากันได้ดีกับ "ความเป็นไทย"
อย่างไรก็ตาม International Policy Digest เตือนว่า เมื่อหมอจีนเรียกเก็บบิล ไทยอาจจะตระหนักเมื่อสายเกินไปว่าค่ายาแพงเหลือเกิน เช่นการต้องซื้อเรือดำน้ำจีนในราคาแพง และอาการป่วยก็ไม่ได้หาย แต่จะเป็นเท่าเดิมในอาหารที่แตกต่างออกไป ถามว่าคนป่วยรายนี้จะหายหรือไม่ เป็นเรื่องที่เวลาเท่านั้นจะตอบได้ แต่อย่างน้อย เมียนมาร์ เพื่อนบ้านของไทยซึ่งป่วยมานานกว่ามาก กำลังดีขึ้นอย่างต่อเนื่องแล้ว