พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม แถลงภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า ที่ประชุมได้มีการแบ่งงานรองนาย​กรัฐมนตรีแล้ว​ ซึ่งไม่ต้องห่วง เป็นการแบ่งงานเช่นเดียวกับรัฐบาลที่แล้ว​ โดยให้รองนายกฯ แต่ละคนกำกับดูแลงานกระทรวง​ต่าง​ๆ​ ซึ่งจะมีการแจ้งให้ทราบอย่างเป็นทางการ​อีกครั้ง​ ​นอกจากนี้ในส่วนการแต่งตั้งข้าราชการการเมืองบางกระทรวงที่มีความพร้อม​ก็มีเสนอแต่งตั้งเข้ามาแล้ว​ ขณะที่การพิจารณา​แต่งตั้งให้ส.ส.ดำรงตำแหน่งข้าราชการ​การเมืองนั้น​ จากการหารือและพิจารณา​ของสำนักงานคณะกรรมการ​กฤษฎีกา​ ทราบว่าไม่สามารทำถได้​ จึงต้องหาวิธี​การบรรจุบุคคลอื่นเข้ามาทำหน้าที่แทนที่ไม่ใช่เป็นส.ส.​ หากป็นส.ส. ก็ต้องลาออกก่อน​ อย่างเช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ​ ที่ต้องลาออกจากส.ส. เพื่อมาเป็นโฆษก​ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี 

ขณะเดียวกันที่ประชุมได้มีการกำชับรัฐมนตรีเกี่ยวกับเรื่องกฏหมายและกฎหมายใหม่ รวมถึงการจัดทำงบประมาณ ส่วนการประเมินผลการทำงานของรัฐบาลมีเป็นขั้นตอนอยู่แล้ว จากนโยบายนำไปสู่การปฏิบัติ จัดทำแผนงานโครงการโดยมีคณะกรรมการเข้าไปตรวจสอบ ที่สำคัญตนได้ย้ำแล้วไปแล้วว่าจะต้องไม่มีการทุจริตโดยเด็ดขาด

เปรียบ ครม.เป็นเรือพา 70 ล้านวอนทุกฝ่ายร่วมมือ - ปัดดูถูกคนจนไม่เสียภาษี

พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงการเปรียบเทียบรัฐบาลของ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีว่าเป็นเรือเหล็ก โดยในมุมมองของตนจะเป็นเรืออะไรก็ได้ แต่ต้องพาประชาชน 70ล้านคน ไปให้ได้ ดังนั้นเรือจะลอยหรือจะจมจะไปได้หรือไม่ได้ขึ้นอยู่กับน้ำ เพราะน้ำคือประชาชนที่จะทำให้เรือลำนี้ไปได้วิ่งไปได้ ดังนั้นถ้าไม่พายก็อย่าราน้ำ เพราะเรือที่บรรทุกคนกว่า 70ล้านคนก็หนักพออยู่แล้ว จึงขอความร่วมมือจากทุกคนด้วย

นายกรัฐมนตรี ยังเตือนขอให้ ระมัดระวังข่าวปลอมหรือเฟคนิวส์ ที่มีการบิดเบือน พร้อมยกตัวอย่าง คำพูดของตนที่อภิปรายชี้แจงในสภา ว่าตนไม่เคยดูถูกคนจนว่าไม่ต้องเสียภาษี แต่ต้นพูดว่าภาษีมีกี่ประเภท ภาษีบุคคลที่มีรายได้น้อย ก็ไม่ต้องเสีย แต่ไปเสียในส่วนอื่นแทน

ส่วน​การแสดงบัญชี​ทรัพย์สิน​และหนี้สินต่อ​คณะกรรมการ​ป้องกัน​และ​ปราบปราม​การ​ทุจริต​แห่งชาติ หรือ (ป.ป.ช.)หลังกฎหมายใหม่เปิดช่องให้นายกฯและรัฐมนตรี​ชุดเก่าที่พ้นจากตำแหน่งไม่เกิน​ 30​ วัน​ ไม่ต้องแสดงบัญชี​ทรัพย์สิน​และหนี้สิน​ ว่า​ ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย​ หากให้ยื่น​ตนก็ต้องยื่น​อยู่แล้ว

เผยตั้ง ครม.เศรษฐกิจให้รองนายกฯทุกคนเห็นชอบร่วมกัน

พล.อ.ประยุทธ์ ยังระบุว่า ที่ประชุม ครม.ยังเห็นชอบให้มีการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจเพราะมีรองนายกรัฐมนตรีมาจากหลายส่วนด้วยกันจึงจำเป็นที่จะต้องเอามารวมกันโดยมีตนเองเป็นหัวหน้า เพื่อนำหลายเรื่องมาหารือร่วมกัน ทั้งต้นทาง กลางทาง และปลายทาง เพราะแต่ละกระทรวงและแต่ละรองนายกรัฐมนตรีก็รับผิดชอบคนละกระทรวงไป ดังนั้นการขับเคลื่อนก็อาจจะมีปัญหาที่อาจจะไม่เกิดความสอดคล้องกันอยู่บ้าง จึงต้องหารือร่วมกัน และรองนายกรัฐมนตรีทุกคนก็เห็นชอบร่วมกัน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ส่วนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของกระทรวงการคลัง ซึ่งในวันที่ 1 ส.ค.นี้ หลักๆจะมีการเน้นการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ ส่งเสริมการท่องเที่ยว และเร่งรัดการใช้จ่ายภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ ซึ่งวันนี้ได้ให้แนวทางในการจัดทำแผนงานโครงการให้สอดคล้องรายไตรมาส ในปี 2563 หากสามารถผลักดันและขับเคลื่อนทั้งโครงการขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ แผน 1 ปี แผน 3 ปี แผน 5 ปี ออกมาก็จะมีเงินออกมาใช้จ่าย ตามห้วงระยะเวลาที่สามารถเบิกจ่ายได้ หากเบิกจ่ายไม่ได้ในเดือนกันยายน ต้องเรียกคืน และมาปรับโครงการเป็นโครงการใหม่ และอาจต้องโยกไปใช้ในปีหน้า หรือปีถัดไป ก็จะทำให้เสียเวลาจึงขอให้เห็นใจ เพราะรัฐถึงแม้จะมีกฎหมายและมีวิธีการบริหารจัดการงบประมาณ แต่หากไม่ผ่านความคิดเห็นของประชาชน ก็ทำได้ลำบากจึงขอให้เข้าใจตรงนี้ด้วย เพราะที่ดินเป็นของเอกชน แต่รัฐบาลจะพยายามทำอย่างเต็มที่

'โฆษก รบ.' เผยงาน 5 รองนายกฯ - เคาะรองเลขาฯ - ที่ปรึกษา รมต.

ด้าน นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้แบ่งงานรองนายกฯ 5 คน ปะรกอบด้วย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีจะกำกับดูแลกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงาน สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) สำนักข่าวกรองแห่งชาติ สภาความมั่นคงแห่งชาติ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และรักษาแทนนายกรัฐมนตรี กรณีรับสนองพระบรมราชโองการ เป็นต้น

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี จะกำกับดูแลกระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงพลังงาน กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ อสมท.

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแล กระทรวงยุติธรรม กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงศึกษาธิการ

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ กำกับดูแล กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข กำกับดูแล กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงคมนาคม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

นางนฤมล ยังระบุว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรียังแต่งตังข้าราชการการเมือง ประกอบด้วย นายประทีป กีรติเรขา อดีตอธิบดีกรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย เป็นรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรคพลังประชารัฐ เป็นรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง(ประจำรองนายกรัฐมนตรีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์)

นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เป็นโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.เรวดี รัศมิทัต อดีต ส.ส.สมุทรปราการ เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายวัชรพงศ์ คูวิจิตรสุวรรณ อดีต ส.ส.สระบุรี เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายยุทธพล อังกินันทน์ โฆษกพรรคชาติไทยพัฒนา เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายธเนศพล ธนบุญยวัฒน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม