เรือนำเที่ยว ชมหิ่งห้อยชนกันที่อัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม  นักท่องเที่ยว เสียชีวิต1ราย  บาดเจ็บอีกหลายคน

เมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 25 ก.ย.58 พันตำรวจตรีวัฒนา  นวลศรีดำ ร้อยเวร สภ.อัมพวา ได้รับแจ้งเหตุเรือนักท่องเที่ยวดูหิ่งห้อยชนกันในแม่น้ำแม่กลอง บริเวณหน้าวัดบางแคใหญ่ ตำบลแควอ้อม อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม ซึ่งอยู่ห่างจากตลาดน้ำอัมพวาประมาณ 500 เมตร เป็นเหตุให้เรือมาศ ชื่อ "ป.โชคโยธิน" ซึ่งเป็นเรือท่องเที่ยวขนาด 30 ที่นั่ง บรรทุกผู้โดยสารเป็นชาวเกาหลี 21 คน ฮังการี 2 คน ชนกับเรืออีป๊าบท่องเที่ยวขนาด 18 ที่นั่ง ชื่อ "ส.ศักดิ์เจริญพร" ซึ่งเป็นเรือเปล่าไม่มีผู้โดยสาร เป็นเหตุให้สภาพเรือทั้ง 2 ลำ พังจากแรงชน โดยหัวเรือ ส.ศักดิ์เจริญพร ขึ้นไปเกยเรือ ป.โชคโยธิน จนเรือเอียง ผู้โดยสารที่อยู่ในเรือ ป.โชคโยธิน ได้รับบาดเจ็บกันทั่วหน้า เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย และคนขับเรือท่องเที่ยวที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุได้รีบเข้ามาช่วยเหลือผู้ประสบเหตุและสามารถนำนักท่องเที่ยวชาย-หญิงทั้งหมดส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระพุทธเลิศหล้าสมุทรสงคราม จำนวน 12 คน, โรงพยาบาลแม่กลอง จำนวน 6 คน และโรงพยาบาลอัมพวา จำนวน 5 คน มี 3 คนอาการสาหัสจากแรงกระแทก และเสียชีวิต 1 คน เป็นหญิงชาวฮังการี ชื่อ นางอาตานาเซีย อายุ 61 ปี  
            
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า เรือนักท่องเที่ยวที่เป็นเรือมาศ ป.โชคโยธิน บรรทุกผู้โดยสารนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ จำนวน 23 คน เป็นชาวเกาหลีใต้ 21 คน และชาวฮังการี 2 คน ออกจากท่าเรือในตลาดน้ำอัมพวา มุ่งหน้าไปชมหิ่งห้อยและทัศนียภาพรอบๆ ตลาดน้ำอัมพวา ถึงที่เกิดเหตุสันนิษฐานว่าคงไม่ได้เปิดไฟวิ่ง เนื่องจากการชมหิ่งห้อยเรือมักจะดับไฟในเรือเพราะต้องการความมืดเพื่อจะได้เห็นแสงหิ่งห้อยชัดเจนและสวยงามยิ่งขึ้น จู่ๆ เรือมาศก็กลับลำ ทำให้เรืออีป๊าบหางยาว ซึ่งเป็นเรือเปล่าไม่มีผู้โดยสารอาจมองไม่เห็นจึงพุ่งชนเกย ทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งจะติดตามคนขับเรือทั้ง 2 ลำมาสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

ต่อมานายปัญญา  งานเลิศ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงครามเดินทางมาติดตามเหตุการณ์พร้อมเร่งประสานสถานทูตเกาหลีใต้ และฮังการี เพื่อแจ้งเหตุการณ์ให้ทราบ และให้ความช่วยเหลือนักท่องเที่ยวทั้งหมด ขณะที่โรงพยาบาลสมเด็จพระพุทธเลิศหล้าได้ประสานจิตอาสาด้านภาษาอังกฤษให้ช่วยเป็นล่ามให้ พร้อมจัดห้องรับรองสำหรับผู้ที่บาดเจ็บเล็กน้อยที่แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วให้พักค้างคืนก่อน 

 ที่มา :   Matichon