ไม่พบผลการค้นหา
เฟซบุ๊กสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทย เขียนข้อความขอให้ผู้โพสต์ข้อความ อย่าใช้คำหยาบคายหรือข่มขู่

เฟซบุ๊กสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทย  เขียนข้อความขอให้ผู้โพสต์ข้อความ อย่าใช้คำหยาบคายหรือข่มขู่ หลังจากมีผู้โพสต์ข้อความจำนวนมาก ตำหนิท่าทีของสหรัฐต่อการบังคับใช้มาตรา 112  

 

ด้านรองนายกรัฐมนตรี ย้ำ จะเร่งตรวจสอบเรื่องร้องเรียนจากส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กรณีนายสุนัย จุลพงศธร มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในการเผยแพร่และปลุกระดมให้เกิดความเข้าใจผิดต่อสถาบัน

 

นายศิริโชค โสภา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคประชาธิปัตย์  จังหวัดสงขลา ยื่นหนังสือต่อ ร้อยตำรวจเอกเฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้ตรวจสอบพฤติกรรม นายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.บัญชีระบบรายชื่อ   พรรคเพื่อไทย กรณีมีคลิปภาพและเสียงแสดงทัศนคติเป็นอันตรายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ปลุกระดมคนเสื้อแดง  ด้วยการบิดเบือนข้อมูล หวังผลเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง และมีการเผยแพร่ไปยังต่างประเทศผ่านโซเชียลมีเดีย 

โดยขอให้ตรวจสอบอย่างจริงจัง เพื่อพิสูจน์ความจริงใจของรัฐบาลในการปกป้องสถาบัน และเรียกร้องให้รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการกำหนดนโยบายการป้องกันและปราบปรามการนำเสนอข้อมูลข่าวสารที่ผิดกฎหมายหรือไม่เหมาะสมผ่านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ดำเนินคดีตามกฎหมาย  และอยากให้รัฐบาลจริงจังกับการปราบปราม และปิดเครือข่ายอินเตอร์เน็ต  ที่เป็นบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์

 

ขณะที่เฟซบุ๊กของสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทย  เขียนข้อความว่า สถานทูตยินดีรับมุมมองและความคิดเห็นที่หลากหลายบนหน้าเฟซบุ๊ก  แต่ขอให้ทำความเข้าใจกับเงื่อนไขในการให้บริการเฟซบุ๊กของทางสถานทูต  และโปรดงดเว้นการใช้ภาษาที่หยาบคาย รุนแรง หรือข่มขู่ 

ซึ่งข้อความนี้  เกิดขึ้นหลังมีผู้เข้าไปโพสต์ข้อความจำนวนมาก ตำหนิ ท่าทีของนางคริสตี้ เคนนีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทย หลังศาลมีคำพิพากษาจำคุก 2 ปี 5 เดือน นายโจ กอร์ดอน ชายไทยสัญชาติอเมริกัน  ในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ

โดย นางคริสตี้  เคยระบุว่า สหรัฐกังวลใจต่อเรื่องดังกล่าว  เพราะการตัดสินไม่สอดคล้องกับมาตรฐานเสรีภาพพื้นฐานสากลว่าด้วยสิทธิในการแสดงออก  พร้อมยืนยันว่าทางการสหรัฐมีความเคารพต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ของไทยอย่างหาที่สุดมิได้ แต่สหรัฐสนับสนุนการมีสิทธิทางความคิดและเสรีภาพในการแสดงออกทั่วโลก 

ขณะที่ภาคีเครือข่ายสยามสามัคคี นำโดย พลเอก สมเจตน์ บุญถนอม อดีตหัวหน้าคณะสำนักงานเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ เรียกร้องให้รัฐบาลแสดงท่าทีที่ชัดเจน  ต่อกรณีที่มีตัวแทนองค์กรต่างชาติ เช่น รักษาการโฆษกสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ,ผู้ตรวจการพิเศาแห่งสหประชาชาติ ,เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย และ ผู้แทนระดับสูงสหภาพยุโรปด้านการต่างประเทศและนโยบายด้านความมั่นคง    แสดงความคิดเห็นและเรียกร้องให้มีการแก้ไขกฎหมายอาญา มาตรา 112

โดยเครือข่าย เรียกร้องให้รัฐบาลปฏิบัติถึงหลักการยึดมั่น ยอมรับการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ทำความเข้าใจกับตัวแทนองค์กรต่างชาติถึงรายละเอียดของกฎหมายอาญา มาตรา 112   และวัฒนธรรมการปกครองระหว่างประชาชนไทยกับพระมหากษัตริย์  

โดยต้องทำหนังสือชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับคดีที่เกี่ยวข้อง  และผลร้าย  หากมีการละเมิด และต้องออกหนังสือประณามการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมของไทย 

 

ด้านกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ ไอซีที เปิดเผยว่า ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา กระทรวงปิดกั้นข้อความไม่เหมาะสมแล้วกว่า 60,000 ยูอาร์แอล เปรียบเทียบกับรัฐบาลชุดที่แล้ว ที่ปิดไป 73,000 ยูอาร์แอลในช่วง 3 ปี ก็แสดงให้เห็นว่า รัฐบาลชุดนี้เอาจริงเอาจัง และปิดกั้นได้ ทั้งเว็บไซต์ที่เปิดในไทย และต่างประเทศ

 

Produced by VoiceTV 

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
187Article
76559Video
0Blog