ศาลากลางกรุงเนปิดอว์ เมืองหลวงแห่งใหม่ของสาธารณรัฐสหภาพเมียนมาร์หรือประเทศพม่า ซึ่งอยู่ห่างจากนครย่างกุ้ง เมืองหลวงเก่า ไปทางตอนเหนือประมาณ 320 กิโลเมตร
อาคารที่มีรูปทรงโอ่โถงแบบรัสเซีย แต่มีหลังคาเป็นสถาปัตยกรรมพม่าที่เห็นอยู่นี้ คือศาลากลางกรุงเนปิดอว์ เมืองหลวงแห่งใหม่ของสาธารณรัฐสหภาพเมียนมาร์หรือประเทศพม่า ซึ่งอยู่ห่างจากนครย่างกุ้ง เมืองหลวงเก่า ไปทางตอนเหนือประมาณ 320 กิโลเมตร
ด้วยที่ตั้งซึ่งอยู่ใจกลางประเทศ รัฐบาลพม่าจึงเริ่มวางแผนย้ายเมืองหลวงไปยังที่ราบกลางหุบเขาขนาดกว่า 4,800 ตารางกิโลเมตรนี้ และลงมือก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ในปี 2545 ก่อนที่จะย้ายกระทรวงต่างๆ เข้าสู่เมืองหลวงใหม่แห่งนี้ตามฤกษ์เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2548 เวลา 6.37 น. และหลังจากนั้นอีก 5 วัน เมื่อวันที่ 11 เดือน 11 เวลา 11.00 น. จึงได้มีการเคลื่อนย้ายรถบรรทุกทหารอีก 1,100 คัน บรรทุกทหาร 11 กองพัน และกระทรวงอีก 11 กระทรวงเข้าสู่กรุงเนปิดอว์ โดยการเคลื่อนย้ายทั้งหมดเสร็จสิ้นลงในเดือนกุมภาพันธ์ปีถัดมา
รัฐบาลให้เหตุผลในการย้ายเมืองหลวงอย่างเป็นทางการว่า นครย่างกุ้งนั้นแออัดเกินกว่าจะปรับผังเมืองหรือสร้างสิ่งปลูกสร้างใหม่ๆ เพิ่มเติมได้แล้ว อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายกลับมองว่ารัฐบาลพม่ากลัวการโจมตีจากต่างประเทศ จึงต้องย้ายเมืองหลวงแห่งใหม่มาอยู่ตรงกลางหุบเขา ซึ่งจะสามารถสร้างฐานปฏิบัติการทางการทหารในภูเขาได้ บ้างก็ว่าพลเอกอาวุโสตานฉ่วยต้องการฝากผลงานทางประวัติศาสตร์ เช่นเดียวกับพระมหากษัตริย์พระองค์อื่นๆ ของพม่าในอดีต ที่มักจะย้ายเมืองหลวงจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง
ปัจจุบัน เมืองหลวงแห่งนี้มีประชากรทั้งสิ้นกว่า 900,000 คน มีการจัดผังเมืองโดยแบ่งเป็นเขตที่ทำการของรัฐบาล ซึ่งประกอบด้วยรัฐสภา ทำเนียบประธานาธิบดี และศาลากลาง เขตของกระทรวงต่างๆ เขตที่อยู่อาศัย ซึ่งประกอบด้วยอพาร์ตเมนท์ของราชการ ที่เป็นอาคารขนาด 4 ช่วงตึก จำแนกกระทรวงที่ข้าราชการแต่ละคนทำงานอยู่ด้วยสีของหลังคา และแมนชันของเจ้าหน้าที่ระดับสูง นอกจากนี้ ยังมีสนามกีฬาขนาดใหญ่ พิพิธภัณฑ์ สวนสัตว์ สวนสาธารณะ โรงแรม และที่ขาดไม่ได้คือเจดีย์อุปปตศานติที่ถอดแบบมาจากเจดีย์ชเวดากองที่เมืองย่างกุ้ง
ข้อเสียเพียงประการเดียวของเมืองหลวงแห่งนี้ ก็คือยังไม่มีโรงเรียนและสิ่งอำนวยสะดวกต่างๆ ข้าราชการหลายคนต้องแยกจากครอบครัว ที่ยังคงต้องใช้ชีวิตในเมืองอื่นๆ ที่มีสาธารณูปโภคพร้อมกว่าเช่นที่เมืองย่างกุ้ง ซึ่งพวกเขาต้องใช้เวลานั่งรถนานถึง 8-10 ชั่วโมง เพื่อเดินทางกลับไปหาครอบครัว
Produced by VoiceTV
