Green Voice ประจำวันที่ 30 มิถุนายน 2558
หนึ่งในของเล่นยอดนิยมที่มีวางจำหน่ายมานานหลายทศวรรษ ซึ่งเป็นที่ถูกใจใครหลายๆ คนอย่าง 'ตัวต่อเลโก้' นั้น กำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ นั่นก็คือในอีก 15 ปีข้างหน้า เลโก้จะไม่ได้ทำมาจากพลาสติกอีกต่อไป
เทปเลโก้ หรือ ตัวต่อพลาสติก ที่หลายคนมีติดบ้าน ทั้งเป็นของเล่นของเด็กๆ และเป็นของสะสมที่มีคุณค่าทางจิตใจของผู้ใหญ่
แต่ทราบหรือไม่ว่าการผลิตเลโก้วางจำหน่ายในแต่ละปีต้องใช้พลาสติกมากถึงกว่า 6,000 ตัน ทั้งยังสร้างรอยเท้าคาร์บอน หรือ กากของเสียสู่ชั้นบรรยากาศ ในปริมาณมากอีกด้วย ซึ่งนั่นไม่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเลย
ผู้บริหารของบริษัทเลโก้ ซึ่งให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์ธรรมชาติมาโดยตลอด ทั้งพยายามออกแบบแพกเกจที่รักษ์โลกยิ่งขึ้น และทั้งลงทุนในฟาร์มกังกันลมในต่างประเทศ จึงก่อตั้งศูนย์วัสดุเพื่อความยั่งยืนของเลโก้ขึ้นในเดนมาร์ก
เบื้องต้น เลโก้ได้ออกแถลงการณ์ในเว็บไซต์ ระบุว่าทางบริษัทจะลงทุน 1 ล้านโครนเดนมาร์ก หรือราว 5 ล้านบาท เพื่อใช้ในการวิจัยวัสดุใหม่ๆ และนำวัสดุที่ได้มาผลิตเป็นตัวต่อเลโก้ให้ได้ภายในอีก 15 ปีข้างหน้า
ทั้งนี้ ศูนย์วัสดุเพื่อความยั่งยืนของเลโก้ หรือ The LEGO Sustainable Materials Centre จะดำเนินการก่อสร้างได้ในช่วงปี 2558 ถึง 2559 นี้ ซึ่งก็น่าจะมีการติดตั้งดาวเทียมเพื่อติดต่อและประสานงานกับทั้งผู้ถือหุ้นและผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกด้วย
ตั้งแต่ปี 2506 หรือ 52 ปีมาแล้ว ตัวต่อเลโก้สีสันต่างๆ ได้ถูกผลิตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางความนิยมที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และเมื่อปีที่แล้ว ทางบริษัทได้ผลิตตัวต่อและส่วนประกอบอื่นๆ มากถึงกว่า 60,000 ล้านชิ้นด้วยกัน
แน่นอนว่า หากเลโก้สามารถทดแทนพลาสติก 6,000 ตัน หรือ ตัวต่อ 60,000 ล้านชิ้น ด้วยวัสดุแนวใหม่ที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมได้สำเร็จนั้น ก็คงจะเป็นการเปลี่ยนโฉมหน้าของตลาดของเล่นโลกไปจากเดิมได้มากทีเดียว
และไม่แน่ว่า แนวคิดอนุรักษ์ธรรมชาติเช่นนี้ อาจเป็นแรงจูงใจให้บริษัทขนาดใหญ่อื่นๆ ทำตามบ้างก็เป็นได้