ผลวิจัยจากสหรัฐฯ ชี้ว่าการปฏิบัติตามแนวทางลดมลพิษทางอากาศขององค์การอนามัยโลก และทำอากาศให้สะอาด จะสามารถป้องกันการเสียชีวิตของประชากรโลกได้ราวปีละ 2 ล้านคน
ผลวิจัยจากมหาวิทยาลัยมินนิโซตา ของสหรัฐฯ ระบุว่าการมีสภาพอากาศที่สะอาดปราศจากมลพิษจะส่งผลดีไม่เพียงแต่เฉพาะกับเขตเมืองที่มีคุณภาพอากาศไม่ดีเท่านั้น แต่ยังส่งผลดีกับส่วนอื่นๆ ของโลกด้วยเช่นกัน และสภาพอากาศที่ดีก็จะสามารถช่วยชีวิตประชากรโลกได้มากถึงปีละ 2 ล้านคนทีเดียว
จูเลียน มาร์แชล และทีมวิจัยชุดนี้ค้นพบว่า ในพื้นที่ที่อากาศค่อนข้างสกปรก เช่น จีน อินเดีย และรัสเซียนั้น หากสามารถดำเนินนโยบายตามข้อกำหนดลดมลพิษขององค์การอนามัยโลกได้ ก็จะสามารถลดจำนวนการเสียชีวิตจากโรคร้ายที่เกี่ยวกับมลพิษได้ราวปีละ 1,400,000 คน ขณะที่ เมืองที่อากาศสะอาดกว่าจะลดได้ปีละกว่า 500,000 คน
ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลกเคยเปิดเผยสถิติว่า มลพิษเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตทั่วโลกราว 3,200,000 รายในแต่ละปี ทั้งที่สาเหตุเช่นนี้สามารถป้องกันได้ล่วงหน้า ซึ่งจำนวนดังกล่าวมากกว่าการเสียชีวิตจากเอชไอวีเอดส์และมาลาเรียรวมกัน
ขณะที่ งานวิจัยอีกฉบับของมหาวิทยาลัยเทกซัส ในสหรัฐฯ ก็ระบุว่าฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน สามารถทำให้เกิดโรค เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดในสมองตีบ และโรคที่เกี่ยวกับปอด ทั้งถุงลมโป่งพองและมะเร็ง เป็นต้น ซึ่งฝุ่นละอองประเภทนี้อาจมาจากโรงไฟฟ้าถ่านหิน หรือโรงงานอุตสาหกรรมอื่นๆ รวมถึงการปรุงอาหารและทำความร้อนภายในบ้านเรือนด้วย