ที่งานมหกรรม เวิล์ด เอ็กซ์โป มิลาโน 2015 ช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัทเครื่องดื่มยักษ์ใหญ่ "โคคา-โคลา"  ใช้โอกาสนี้ประชาสัมพันธ์แคมเปญที่ชื่อว่า PlantBottle หรือ โครงการการใช้บรรจุภัณฑ์ หรือขวด PET ที่ผลิตจากพืชทั้งหมด โดยตั้งเป้าให้สำเร็จภายในปี 2020 เป็นเจ้าแรกของโลก

หน้าตาของขวดที่ถูกเปิดเผยออกมา หากมองจากภายนอกจะไม่เห็นความแตกต่าง กับขวดที่วางจำหน่ายตามท้องตลาด ซึ่งล้วนผ่านกระบวนการผลิตโดยใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล และผลิตจากวัตถุที่ยากต่อการรีไซเคิล  แต่กระบวนการใหม่ คือ การการสกัดน้ำตาลจากพืช เช่น อ้อย แล้วนำมาหลอมให้เป็นบรรจุภัณฑ์ ที่มีคุณสมบัติไม่ต่างจากขวดพลาสติก PET แต่ไม่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมา ระหว่างกระบวนการผลิต

โคคา-โคลา ยืนยันว่า แม้บรรจุภัณฑ์รูปแบบใหม่ จะผลิตจากกากน้ำตาลที่เหลือจากโรงงาน รวมถึงพืชไร่ที่ปลูกไว้ในบราซิลและอินเดีย แต่มั่นใจได้ว่า สามารถบรรจุสามารถบรรจุเครื่องดื่มได้ทุกรูปแบบของโคคา-โคลา ทั้งน้ำอัดลม, กาแฟสำเร็จรูป, ชา และน้ำผลไม้  และแม้จะเป็นแคมเปญที่ยากและซับซ้อน แต่ก็ถึงเวลาแล้วที่หลายฝ่ายจะต้องร่วมมือการเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาอย่างยั่งยืน

อันที่จริงแล้ว การพัฒนาบรรจุภัณฑ์รักษ์โลกของโคคา-โคลา ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2009 ปัจจุบันบรรจุภัณฑ์โคคา-โคลาเป็นรูปแบบ PlantBottle ชนิด 30% กว่า 40 ประเทศ ครอบคลุมทุกทวีปทั่วโลกเฉพาะในทวีปเอเชีย ได้แก่ จีน ฮ่องกง อินเดีย ไต้หวัน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น น่าเสียดายที่ยังไม่มีจำหน่ายในประเทศไทย แต่โคคา-โคลา ตั้งเป้ากระจายไปทั่วโลกภายในปี 2020 

ปัจจุบัน บริษัท โคคา-โคลา เป็นเจ้าของแบรนด์เครื่องดื่มหลากหลายประเภท  มีลูกค้ากระจายไปทั่วโลกทั้งสิ้น 200 ประเทศ  หรือขายได้กว่า 1.9 ล้านขวดต่อวัน ถ้าพันธะสัญญาของโคคาโคลาในครั้งนี้เป็นจริง ในอนาคตโลกเราจะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มหาศาล