ไม่พบผลการค้นหา
’รังสิมันต์ โรม' จี้รัฐบาลไม่สานต่อคดีค้ามนุษย์ หากอยากรู้ชื่อผู้เกี่ยวข้องมาถามตนได้ เชื่อ 3 ป.มีเอี่ยวกดดัน 'ปวีณ' ลี้ภัย

วันที่ 22 ก.พ. 2565 ที่รัฐสภา รังสิมันต์ โรม ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงการติดตามตัวการคดีขบวนการค้ามนุษย์ซึ่งผู้มีอำนาจในรัฐบาลอาจมีส่วนเกี่ยวข้อง ตามที่ได้อภิปรายในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ว่า หลังจากวันที่อภิปรายทั่วไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 เมื่อวันที่ 18 ก.พ. ที่ผ่านมา 3 วันเต็มแล้ว ยังไม่ได้รับคำอธิบายที่น่าพอใจจากฝั่งรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คำชี้แจงที่ออกมานั้นก็ไม่ต่างจากปีที่แล้ว ตนมองว่ารัฐบาลควรกลับไปพิจารณาว่าใครที่มีบทบาทหน้าที่ในการปราบปรามการค้ามนุษย์ในช่วงนั้น และเข้าขัดขวางกระบวนการ ในการอภิปราย ตนสามารถเอ่ยได้เพียงอักษรย่อเท่านั้น เนื่องจากมีข้อจำกัดทางกฏหมาย หากรัฐบาลอยากทราบว่าเป็นใครบ้าง ตนก็พร้อมให้ข้อมูล 

รังสิมันต์ ยังกล่าวว่า รัฐบาลควรต่อยอดด้วยการใช้กลไกสืบสวนสอบสวนหาตัวการที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ เนื่องจากมีการกระทำที่เข้าข่ายผิดต่อวินัย เพราะตนเชื่อว่าเจ้าหน้าที่รัฐผู้เกี่ยวข้องกับกรณีนี้ไม่ได้มีเพียงคนเดียว หน่วยงานเช่น กองทัพเรือ และฝ่ายปกครองต่างๆ ที่อยู่ใต้การควบคุมของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ควรต้องรับผิดชอบด้วยหรือไม่ เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะขนย้ายมนุษย์ข้ามจังหวัด หากรัฐบาลมั่นใจว่าต้องการที่จะปราบปรามการค้ามนุษย์จริง ต้องตั้งคณะกรรมการซึ่งประกอบด้วยผู้ที่สังคมเชื่อถือไดัมาดำเนินการ 

สำหรับการสานต่อด้วยช่องทางอื่นๆ นั้น รังสิมันต์ ระบุว่า การนำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะกรรมาธิการกฏหมาย ถือเป็นช่องทางที่น่าสนใจ แต่ช่องทางนี้ไม่เพียงพอที่จะทำให้เราอยู่ในบรรยากาศที่ปลอดภัยพอจะให้ พล.ต.ต.ปวีณ พงษ์สิรินทร์ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 กลับมาพบครอบครัวของเขาได้

รังสิมันต์ ยังกล่าวว่า ทางที่ดีควรต้องจัดตั้งรัฐบาลใหม่ขึ้นมา เพราะตนเชื่อว่า '3 ป.' ได้แก่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.อนุพงษ์ ต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับการลี้ภัยของ พล.ต.ต.ปวีณ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง 

รังสิมันต์ กล่าวถึงสาเหตุที่ทำให้เชื่อว่าทั้ง '3 ป.' มีส่วนเกี่ยวข้องว่า หาก พล.อ.ประวิตร ไม่เกี่ยวข้อง ก็ไม่มีเหตุผลที่จะใช้อำนาจในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) สั่งย้าย พล.ต.ต.ปวีณ ลงไปสามจังหวัดภาคใต้ที่มีความเสี่ยงอันตราย ขณะที่ พล.อ.อนุพงษ์นั้น ตนมีแหล่งข่าวที่ยืนยันได้ว่าท่านมีความคุ้นเคยดีกับขบวนการค้ามนุษย์ และต้องมีคำตอบในเรื่องนี้ เพราะดูจากสีหน้าท่านก็บ่งบอกได้หลายอย่าง ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ นั้น ตนเชื่อว่าในฐานะนายกฯ ต้องรับรู้เรื่องทั้งหมดอยู่แล้ว และ พล.ต.ต.ปวีณ ยังเคยร้องขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ ทบทวนคำสั่งย้าย แต่ก็ไม่มีการทบทวน และที่สำคัญ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องรับผิดชอบในฐานะนายกฯ ที่ปล่อยให้สถานการณ์การค้ามนุษย์ในประเทศย่ำแย่ลงเรื่อยๆ