นางปิยาภรณ์ แสนโกศิก หรือ ปุ้ย ทีพีเอ็นฯ กรรมการบริษัท ทีพีเอ็น 2018 จำกัด ผู้จัดการประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ และ ดร.อดิศร สุดดี หรือ หนุ่ม เชียงใหม่ ประธานกรรมการบริหารบริษัทในเครือเอ็มกรุ๊ป ผู้อำนวยการกองประกวดนางสาวเชียงใหม่ และผู้ถือลิขสิทธิ์จัดการประกวดนางสาวไทย พูดถึงแผนการจัดประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020 และ การจัดประกวดนางสาวไทย ประจำปี 2563 เวทีประกวดนางงาม 2 เวทีใหญ่ของประเทศ เรียกความสนใจจากแฟนนางงามจำนวนมาก ในขณะสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 กลายเป็นวิกฤตครั้งใหม่ ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีวัคซีนป้องกันโรค และยังไม่มียารักษาโรคโดยตรง ส่งผลกระทบด้านสาธารณสุข ภาคธุรกิจ และสังคมไทย ผู้จัดงานแสดงสินค้าสินค้า อีเว้นท์ หรือคอนเสิร์ต ที่มีผู้เข้าร่วมจำนวนมาก ตระหนักถึงสถานการณ์และการป้องกันการแพร่ระบาด ต่างพากันเลื่อนวันหรือยกเลิกการจัดงาน
นางปิยาภรณ์ แสนโกศิก บอกว่า สำหรับการจัดประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020 วางแผนไว้ว่าจะจัดการประกวดช่วงปลายเดือนมิถุนายนถึงต้นเดือนกรกฎาคม มีการประชุมทีมงานกันทุกวันแบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ แต่ก็ต้องดูสถานการณ์ถ้าภายในเดือนพฤษภาคม ประเทศเรายังป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ไม่ได้ ก็ต้องเลื่อนกำหนดวันประกวดออกไป
“เราเตรียมงานไว้เป็นระบบหมดแล้วหรือว่าเป็นโบกี้ แน่นอนถ้ายังไม่ดีขึ้นก็ต้องเลื่อนทั้งโบกี้ ตอนนี้เราเตรียมโบกี้ไว้พร้อมแล้ว ก็ต้องเลื่อนทั้งโบกี้ต้องยอมเจ็บแต่จบ ต้องให้หยุดให้ได้ก่อนมิเช่นนั้นสถานการณ์มันจะไปกันใหญ่วุ่นวายหรือเรื้อรัง ก็คิดว่าต้องใช้โมเดลนี้ แต่คิดว่าหนึ่งประเทศไทยเป็นเมืองร้อน สองประชาชนเริ่มให้ความร่วมมือดี ภาครัฐก็ตื่นตัวกันมากตอนนี้ น่าจะรอดู ถ้าทุเลาลงก็ออนแพลนตามเดิมทุกอย่างเตรียมพร้อมไว้หมด”
ทั้งนี้หากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคบานปลาย ยังไม่มีวี่แวว่าจะดีขึ้นภายในเดือนพฤษภาคมหรือภายในปี้นี้ อาจจะประกาศงดซึ่งเป็นเรื่องที่ทำได้อย่างง่ายดาย ในขณะเดียวกันก็มีการคิดเป็นรายวันว่า ถึงเวลาหรือยังที่จะเปลี่ยนแปลงรูปแบบการจัดประกวดฯ แต่ถ้าสถานการณ์ไม่ไหวจริงๆ ก็คงจะไม่ฝืนจัด คำว่าไม่ฝืน คือ ไม่ใช่ไปฝืนจัดให้มีกิจกรรมชุมนุมผู้คน ถ้าไปคงจะรู้สึกแย่มากๆ ถ้าการประกวดเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้การระบาดลุกลาม
“สถานการณ์ไม่ดีขึ้นการจะจัดให้มีการมาชุมนุมเป็นหมู่เหล่าคงไม่ทำ แต่ในรูปแบบอื่นที่ไม่ต้องมีการชุมนุมกันไปอยู่ด้วยกันในคนหมู่มาก แต่ถ้ามีวิธีที่ยังได้อรรถรสเรียกว่าน้องยังอยู่ในป่าอะเมซอนแล้วยังได้รับความสนใจ นั่นอีกเรื่องหนึ่ง ก็คิดแพลตฟอร์มนั้นไว้เหมือนกัน”
อย่างไรก็ตามหากไม่สามารถจัดประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020 แต่กองประกวดมิสยูนิเวิร์ส หรือ นางงามจักรวาล ไม่ยกเลิกจัดการประกวดในปี 2020 จะไม่มีการส่งรองมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2019 เป็นตัวแทนเข้าร่วมประกวดอย่างแน่นอน
“ถ้ากองแม่จัดไทยแลนด์ของเราก็ต้องมีมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020 แน่นอน แต่ว่ามันจะเฟ้นกันในรูปแบบไหนให้ลุ้นกัน คิดว่าแต่ละปีก็ต้องมีช้างเผือกหลุดเข้ามา เดี๋ยวนี้โลกมันเต็มไปด้วยความเคลื่อนไหว มีออนไลน์ มีเทคโนโลยีต่างๆ มากมาย มีปัญญาประดิษฐ์เข้ามา ทุกอย่างเกิดขึ้นได้ในแพลตฟอร์มของเรา”
ด้าน ดร.อดิศร สุดดี บอกว่า ในส่วนของการจัดประกวดนางสาวไทย ประจำปี 2563 เบื้องต้นได้เลื่อนกำหนดวันจัดประกวดไปแล้ว จากเดิมจะจัดการประกวดในเดือนกันยายน เลื่อนไปเป็นต้นเดือนพฤศจิกายนหรือก่อนวันลอยกระทง แม้มีการนำเสนอแผนจัดการประกวดกับสปอนเซอร์ และสถานีโทรทัศน์ไปเรียบร้อยแล้ว แต่ก็ยังต้องดูสถานการณ์ หากยังไม่สามารถหยุดการแพร่ระบาดได้ ก็คงไม่ฝืนจัดประกวด เพราะในขณะที่บ้านเมืองได้รับผลกระทบ ยังดิ้นรนจัดงานรื่นเริง ก็คงมีแต่ความหดหู่ ไม่มีความสุขเหมือนกับจัดในช่วงที่บ้านเมืองปกติสุขแน่นอน เพราะวิกฤตนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบทางด้านสาธรณสุขเพียงด้านเดียว ยังส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจ จำนวนคนตกงานเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากจากการถูกเลิกจ้าง และพักงาน เมื่อสถานการณ์คลี่คลายต้องมีการฟื้นฟูประเทศกันอีกยกใหญ่
“ก็ลุ้นอยู่คงต้องดูสถานการณ์ไม่แน่ใจว่าจะหยุดยั้งการแพร่ระบาดได้เร็วแค่ไหน แค่ถึงอย่างไรตอนนี้ก็ส่งผลกระทบหมดมีปัญหาหมด ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ คุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คน ในเรื่องธุรกิจอีเว้นท์ตอนนี้เป็นศูนย์ ส่วนตัวทำธุรกิจด้านนี้ด้วยก็หามาตรการว่าจะช่วยเหลือพนักงานของตนเองอย่างไรเช่นกัน ถ้าสถานการณ์ไม่ดีขึ้นจริงๆ ก็คงไม่ฝืนที่จะจัดประกวด เราจะไปทำอะไรที่ไปฝืนกับความเป็นจริงคงยาก จะไปจัดการประกวดแบบปิดแบบให้ติดตามการประกวดทางไลฟ์สดไม่ให้คนดูเข้า ก็ไม่มีความสุขเหมือนปกติ เราไม่ไดด้มองว่าจัดหรือไม่จัด ได้กำไรหรือไม่ได้กำไร แต่มองว่าถ้าจัดแล้วขัดแย้งกับพื้นฐานความจริงก็คงเป็นไปไม่ได้ ก็หวังว่าสถานการณ์จะบรรเทาเบาบางลง ไม่ใช่เพราะอยากจัดการประกวด แต่เป็นการรวมพลังรวมใจให้ประเทศพ้นภัย ผ่านวิกฤตนี้ไปให้ได้ เพราะทุกคนได้รับผลกระทบ ไม่ได้จบแค่การหยุดการระบาดเท่านั้น หลังจากนั้นยังต้องมีการฟื้นฟูจากปัญหาต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะความเป็นอยู่ของประชาชนที่ตกงานเป็นจำนวนมาก และภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักด้วย”
ส่วนความเคลื่อนไหวของ ภูมิรัตน์ เลิศวิศษฎ์ชัย หรือ “แม่ลักษณ์” ผู้ถือลิขสิทธิ์มิสอินเตอร์เนชั่นแนลไทยแลนด์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ไบรด์โฮลเซล (Bride Wholesale) ร้านขายส่งชุดเจ้าสาวรายใหญ่ ย่านประตูน้ำ ประกาศเปลี่ยนโรงงานชุดเจ้าสาว เป็นโรงงานเย็บหน้ากาก ทำด้วยผ้าฝ้ายลายลูกแก้วจากศูนย์ศิลปาชีพบางไทร ซับด้วยผ้ามัสลิน และรองด้วยผ้ายืด TK เพื่อแจกฟรีสำหรับผู้ต้องขังชาย และหญิง รวมถึงพระสงฆ์และแม่ชี และหน่วยงานใดต้องการ แจ้งความประสงค์ได้ที่อินบอกซ์ เฟซบุ๊ก Lertvisitchai Pumirath