เมื่อวันที่ 16 มี.ค. 2563 นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวแถลงภายหลังการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ว่า ที่ประชุมเห็นตรงกันว่าแม้จะได้เตือนมาเป็นระยะของการแพร่ระบาดโควิด-19 ยืนยันว่าไทยยังอยู่ในระยะที่ 2 ซึ่งมีเหตุผลทางปฏิบัติและทางวิชาการเป็นกฎเกณฑ์ที่ไทยกำหนดเอง ซึ่งระยะที่ 3 ต้องแพร่เป็นจำนวนมากและปรากฏหลากหลายพื้นที่ แปลว่าคับขันเกินกว่าระยะที่ 2 ไทยจึงยังไม่เข้าสู่ระยะที่ 3 ขอว่าอย่าอยู่ในความตื่นตระหนก แต่นายกรัฐมนตรีก็มีการเตรียมรับมือไว้แล้ว พร้อมทั้งอนุมัติค่าตอบแทนพิเศษให้บุคลากรทางการแพทย์เป็นกรณีพิเศษ
ส่วนเรื่องหน้ากากอนามัยของกลางที่ตรวจยึดหลายที่นั้น จะให้ให้ส่งเข้ามาที่ศูนย์โควิด-19 เพื่อแจกจ่ายให้บุคลากรทางการแพทย์และประชาชน แต่เรื่องคดีก็ดำเนินการไปอย่าให้เสียรูปคดี ถ้าในที่สุดไม่ผิดรัฐยินดีชดเชยคืนเป็นเงินให้ พร้อมจัดตั้งทีมไทยแลนด์ในทุกประเทศที่มีโควิด-19 ระบาด โดยให้ทูตรับเรื่องและรายงานถึงไทย โดยตั้งขึ้นเป็นการเฉพาะกิจ
สำหรับวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ปี 2563 ก่อนหน้านี้มีมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้มีการหยุดยาว 5 วันก่อนที่จะมีสถานการณ์โรคโควิด-19 แต่ก็เกรงว่าจะมีการติดโรคโดยเป็นพาหะอย่างไม่รู้ตัวแล้วไปแพร่ที่ต่างจังหวัด และในทางกลับกันจากต่างจังหวัดเข้ามาใน กทม.ด้วยเช่นกัน และการสังสรรค์มีความเสี่ยงในกาแพร่เชื้อโรคได้ ดังนั้นเพื่อลดความเสี่ยงในวันที่ 13-15 เม.ย.นี้จะไม่เป็นวันหยุดราชการและไม่เป็นวันหยุดงานของภาคเอกชน แต่จะชดเชยวันหยุดให้ในโอกาสอื่นต่อไป เมื่อสถานการณ์บรรทาเบาบางลง จะประกาศให้ทราบล่วงหน้าอีกครั้ง โดยจะนำเรือ่งดังกล่าวนำเข้าสู่ที่ประชุม ครม.ในวันที่ 17 มี.ค.นี้
นายวิษณุ ระบุว่า สถานที่ที่มีการร้องตะโกน มีการสัมผัส ถูกเนื้อถูกตัว มีกิจกรรมที่เหงื่อออก เป็นความเสี่ยงอย่างรุนแรงมาก เพราะเป็นการแพร่เชื้อโรคได้ดีที่สุด จำเป็นต้องควบคุมสถานที่ที่มีผู้คนเข้าไปชุมนุม เพื่อให้หยุดกิจการหรือปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว โดยจะเริ่มวันที่ 18 มี.ค. เป็นต้นไป อาทิ มหาวิทยาลัยของรัฐและเอกชน ให้สอนทางออนไลน์เป็นทางเลือกทางเลี่ยง โรงเรียนเอกชนและรัฐให้ปิดเร็วขึ้นเพื่อลดความเสี่ยง รวมถึงสถาบันกวดวิชาด้วย สนามมวยทั่วประเทศ สนามกีฬาที่มีการสัมผัสถึงกัน เช่น ฟุตบอล บาสเกตบอล และโรงภาพยนตร์ก็อาจจะเข้าเกณฑ์ แต่ขอดูรายละเอียดอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเป็นการดำเนินการตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ รวมถึงจัดการเหลื่อมเวลาทำงาน เดินทาง การรับประทานอาหาร ลดจำนวนในการทำอะไรพร้อมกันทีละมากๆ โดยวันที่ 17 มี.ค. หลังประชุม ครม.จะมีความชัดเจน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง