ปิยวัฒน พันธ์สายเชื้อ ส.ส.ยโสธร พรรคเพื่อไทย เปิดเผยถึงกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เตรียมเห็นชอบตามที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช.เสนอให้มีการต่ออายุพระราชกำหนดบริหารราชการฉุกเฉิน หรือ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จนไปสิ้นสุดเดือน ก.ย. 2563 ว่า รัฐบาลไม่ควรที่จะต่ออายุพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ต่อไป

เนื่องจากจนถึงวันนี้รัฐบาลประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มานานเกิน 6 เดือน ผลที่ออกมาคือไม่มีอะไรดีขึ้น มีแต่เลวร้ายลงไป

นอกจากนี้ จากการหารือกับกลุ่มธุรกิจพบว่าไม่มีปัจจัยบวกเข้ามาเลย แย่ลงในทุกๆ ด้าน นอกจากนี้นักลงทุนไม่เชื่อมั่นการบริหารประเทศของรัฐบาลทำให้หนีไปลงทุนในต่างประเทศ ยิ่งมีการต่อพ.ร.ก.ฉุกเฉิน จะยิ่งแย่หนักขึ้น การที่พล.อ.ประยุทธ์ ออกมายอมรับว่าเศรษฐกิจไทยจะซบเซาต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปี 2564 จึงเป็นการตอกย้ำว่ารัฐบาลไร้ประสิทธิภาพในการทำงานอย่างเห็นได้ชัด

ปิยวัฒน กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้การปรับคณะรัฐมนตรี เปลี่ยนตัวรัฐมนตรีเศรษฐกิจใหม่ก็ไม่ช่วยให้เศรษฐกิจดีขึ้น เพราะเมื่อหัวหน้าทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลยังเป็นพล.อ.ประยุทธ์ ดังนั้นชุดความคิดและความไม่รู้และไม่ฟังใครของพล.อ.ประยุทธ์จึงเป็นอุปสรรคในการทำงานของทีมเศรษฐกิจรัฐบาล

"จากการลงพื้นที่พบปะประชาชน รวมทั้งหารือกับนักธุรกิจในพื้นที่ มีเสียงสะท้อนออกมาว่า การค้าขายไม่เคยแย่ขนาดนี้มาก่อน ประชาชนไม่มีรายได้และนโยบายรัฐไม่สามารถช่วยพี่น้องประชาชนได้ ดังนั้นจึงมีเสียงจากชาวบ้านว่า หมดเวลาพล.อ.ประยุทธ์แล้ว เพราะยิ่งอยู่เศรษฐกิจไทยยิ่งดำดิ่งลง พล.อ.ประยุทธ์บอกตัวเองเสียสละเข้ามา ถึงวันนี้พล.อ.ประยุทธ์จะเสียสละลาออกเพื่อประชาชนได้หรือยัง" ปิยวัฒน กล่าว

'อนุสรณ์' ชี้ อดีตกำลังไล่ล่า 'พล.อ.ประยุทธ์'

อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ ปฏิเสธตอบคำถาม รู้สึกอย่างไร ที่มีเด็กๆ เรียกว่าเป็น 'นายกรัฐมนตรีเผด็จการ' ของสื่อมวลชนต่างประเทศ ว่า ชุดความคิดของพล.อ.ประยุทธ์ ยังคงเป็นแบบ 'Old Normal' ไม่เคยเปลี่ยน ไม่เข้าใจว่า วันนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรขึ้นในสังคมไทยบ้าง การที่นักเรียน นิสิต นักศึกษา ประชาชน เรียกพล.อ.ประยุทธ์ ว่าเป็นนายกฯ เผด็จการ ตรงกับสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นจริงมาตลอด 6 ปี

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องส่งสัญญาณให้หยุดคุกคามนักเรียน นิสิต นักศึกษาประชาชน ผู้เห็นต่างกับรัฐบาล รับฟังข้อเรียกร้อง ความคิดเห็นของกลุ่มผู้ชุมนุมอย่างจริงจัง เคารพในสิทธิเสรีภาพของผู้ชุมนุม อย่าตั้งแง่ว่าทำตามข้อเรียกร้อง 3 ข้อไม่ได้ พล.อ.ประยุทธ์ และพวกพ้องอาจเคยเป็นผู้ได้รับประโยชน์จากการเป่านกหวีดชัตดาวน์ประเทศ แต่วันนี้พฤติกรรมตามทฤษฎีสมคบคิด กลายเป็นอดีตที่กำลังไล่ล่าพล.อ.ประยุทธ์และพวกพ้องอย่างหนัก ในอดีตไปเป่านกหวีดไล่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน วันนี้กลับต้องมาเจอเสียงนกหวีดเป่าไล่เสียเอง กรรมมาไวยิ่งกว่ากรรมออนไลน์ เพราะเป็นกรรม 'New Normal'

"ยุทธวิธีแจ้งข้อหาหนัก ไล่จับกุมแกนนำทีละคน ไม่ช่วยให้พลังมวลชน นักเรียน นิสิต นักศึกษา ประชาชน ลดลง แต่ในทางตรงกันข้าม กลับยิ่งทำให้ความขัดแย้งลุกลามบานปลายมากยิ่งขึ้น" อนุสรณ์ กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

• 'มงคลกิตติ์' แนะ 'ประยุทธ์' ลาออก หวั่นชุมนุมบานปลายทั้ง นศ.-คนตกงาน
• 'ประยุทธ์' ไม่ตอบสื่อนอกบี้ถาม รู้สึกอย่างไร นร.เรียก 'นายกฯ เผด็จการ'