BBC รายงานว่ารัฐบาลท้องถิ่นญี่ปุ่นในหลายจังหวัดอย่างฟุกุโอกะและฮิโรชิมะ ตัดสินใจประกาศเตือนภัยฝนในระดับสูงที่สุด หลังต้องเผชิญฝนที่ตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่อง เป็นเหตุให้ประชาชนนับล้านต้องเผชิญกับน้ำท่วมที่อยู่อาศัย และเหตุดินถล่มบริเวณเชิงเขา ซึ่งมีรายงานผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 1 รายในจังหวัดนากาซากิ
ขณะที่ประชาชนในพื้นที่ได้กล่าวกับ AFP ว่า ทีมกู้ภัย เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ดับเพลิงมากกว่า 150 ทีม กำลังเร่งเข้าช่วยเหลือประชาชน ช่วยค้นหาประชาชนที่สูญหาย และเฝ้าระวังเหตุดินโคลนถล่มที่อาจเกิดขึ้นได้อีกทุกเมื่อเพราะฝนยังไม่มีทีท่าจะหยุดตก และคาดว่าฝนจะตกหนักต่อเนื่องไปอีกหลายวัน ขณะที่พื้นที่ฝั่งตะวันตกของประเทศได้รับความเสียหายหนักที่สุด
ตามการรายงานของ Kyodo บุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลของจังหวัดซากะได้ย้ายผู้ป่วยทั้งหมดขึ้นไปอยู่ที่ชั้น 2 ของโรงพยาบาลในวันที่ 14 ส.ค. หลังระดับน้ำในแม่น้ำรกกากุเอ่อล้นและไหลเข้าท่วมชั้น 1 ของอาคารโรงพยาบาลทั้งหมด
สำนักข่าว NHK ชี้ว่าขณะนี้รัฐบาลได้แนะนำไปยังประชาชนมากกว่า 1.8 ล้านคนใน 7 จังหวัดทั่วประเทศให้เร่งอพยพออกจากพื้นที่ที่อยู่อาศัยไปยังศูนย์อพยพโดยด่วน เนื่องจากเป็นอุทกภัยครั้งร้ายแรง
ยูชิ อะดาชิ นักวิทยาศาสตร์จากหน่วยงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นเรียกปรากฏการณ์นี้ว่าเป็นฝนตกกระหน่ำ "แบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน" พร้อมชี้ว่า "มีความเป็นไปได้สูงมากว่าความหายนะได้เกิดขึ้นแล้ว การเตือนภัยขั้นสูงสุดเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก แม้ในพื้นที่ที่การเกิดดินถล่มไม่ถูกจัดอยู่ในระดับที่มีความอันตรายสูงมาก่อนก็ตาม"
นักวิทยาศาสตร์ยังเตือนด้วยว่า ที่คือสัญญาณเตือนครั้งใหญ่ของผลกระทบจาก 'ภาวะโลกร้อน' เป็นเหตุให้ความรุนแรงของพายุฝนในญี่ปุ่นและพื้นที่อื่นๆ ทั่วโลกนั้นทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นอย่างชัดเจน