นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม มีความห่วงใยพี่น้องชาว จ.อุบลราชธานี ขอให้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์มวลน้ำที่จะไหลผ่านอำเภอเมืองอุบล โดยคาดว่าในวันที่ 13 ก.ย. จะมีมวลน้ำสูงสุดอยู่ที่ 5,300-5,500 ลบ.ม./วินาที นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งจะมีน้ำล้นตลิ่งและท่วมขังในหลายพื้นที่ จึงขอให้ติดตามข่าวสารจากหน่วยงานของรัฐอย่างต่อเนื่อง หากต้องการความช่วยเหลือ ขอให้ติดต่อสายด่วน 1784 และขอให้หน่วยงานของรัฐประชาสัมพันธ์สถานการณ์ให้ประชาชนได้รับทราบอย่างทั่วถึง และทันต่อสถานการณ์
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้หน่วยงานของรัฐ และทุกเหล่าทัพเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ โดยให้กระจายกำลังและเครื่องมือช่างสนับสนุนการช่วยเหลือประชาชนที่ยังประสบอุทกภัยในพื้นที่วิกฤตอย่างต่อเนื่องและทั่วถึง ขอให้อยู่กับประชาชนในพื้นที่จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย พร้อมสั่งการให้หน่วยงานของรัฐในพื้นที่เตรียมแผนการเคลื่อนย้ายคน รวมถึงสัตว์ให้พร้อม โดยกำชับว่าพื้นที่ใดที่มีความรุนแรงต้องเร่งช่วยเหลือให้แล้วเสร็จก่อนเวลามืดค่ำ และให้จัดเตรียมศูนย์อพยพรองรับประชาชนในพื้นที่ จัดเตรียมห้องน้ำโมบา�� รวมถึงน้ำอุปโภคบริโภคให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชนแล้ว
ทั้งนี้ ในส่วนของกองทัพได้เตรียมกำลังทหารทั้งทางบก ทางน้ำและทางอากาศไว้ในพื้นที่ โดยได้จัดกำลังพลหมุนเวียนวันละกว่า 4,000 นาย พร้อมกับเครื่องมือช่าง เครื่องสูบน้ำ เรือชนิดต่าง ๆ และยานยนต์ล้อสูง รวมทั้งรถครัวสนาม รถประปาสนาม และชุดแพทย์เคลื่อนที่คอยให้ความช่วยเหลือ ให้บริการ และอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง รวมถึงได้จัดอากาศยานพร้อมชุดค้นหาและกู้ภัย ทำการช่วยเหลือและค้นหาผู้สูญหาย พร้อมทั้งได้จัดเรือผลักดันน้ำ จำนวน 25 ลำ เร่งระบายน้ำท่วมขังในพื้นที่อย่างต่อเนื่องแล้ว
นางนฤมล ยังระบุว่า นายกรัฐมนตรียังขอให้ประชาชนมั่นใจว่ารัฐบาล และภาคส่วนต่าง ๆ รวมถึงจิตอาสาจะให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่องและเต็มที่ ขอให้ทำงานด้วยความระมัดระวัง และขอให้พี่น้องชาวจังหวัดอุบลราชธานี และพี่น้องในพื้นที่น้ำท่วมผ่านพ้นเหตุการณ์ดังกล่าวไปให้ได้ โดยภายหลังสถานการณ์คลี่คลายแล้ว ขอให้เจ้าหน้าที่ของรัฐเร่งสำรวจความเสียหาย ให้ความช่วยเหลือเยียวยาประชาชนเป็นการเร่งด่วน