ไม่พบผลการค้นหา
ศาลเมียนมาเปิดเผยว่าจะดำเนินคดีกับพระวีรธุ ที่เพิ่งถูกประกาศหมายจับข้อหายุยงปลุกปั่นสร้างความเกลียดชังต่อรัฐบาล เพียง 1 วันหลังกลุ่มชาตินิยมพุทธเมียนมาชุมนุมสนับสนุนพระวีรธุ และเรียกร้องให้รัฐบาลยุติการกดขี่พระสงฆ์และศาสนาพุทธ

ศาลนครย่างกุ้งของเมียนมา เปิดเผยว่าจะพิจารณาคดีของพระวีรธุ แกนนำพุทธสุดโต่งแม้จำเลยจะไม่ปรากฏตัวต่อศาล หลังจากที่หมายจับพระวีรธุในข้อหายุยงปลุกปั่นสร้างความเกลียดชังรัฐบาลหมดอายุลงแล้วในวันนี้ (11 มิ.ย.) โดยที่พระวีรธุยังคงอยู่ระหว่างการหลบหนีการจับกุม แม้ก่อนหน้านี้ พระวีรธุจะประกาศว่าจะยอมถูกตำรวจจับ ทั้งนี้ หากพระวีรธุถูกตัดสินว่ามีความผิดก็อาจถูกลงโทษจำคุก 7-20 ปีหรือเสียค่าปรับ

การพิจารณาคดีโดยที่จำเลยไม่ปรากฏตัวในชั้นศาลถือเป็นมาตรการที่หนักที่สุดที่รัฐบาลพยายามปราบปรามพระวีรธุ เนื่องจากการพิจารคดีโดยที่จำเลยไม่ปรากฏตัวในชั้นศาลจะทำให้พระวีรธุเสียสิทธิในการแก้ต่างให้ตัวเองในชั้นศาล ขณะที่ผู้ที่ช่วยให้พระวีรธุหลบหนีการจับกุมของตำรวจก็จะถูกดำเนินคดีไปด้วย โดยศาลเมียนมาได้นัดอัยการและโจทก์ไปขึ้นให้การต่อศาลในสัปดาห์หน้า

เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา กลุ่มชาตินิยมพุทธสุดโต่งในเมียนมาหลายร้อยคนออกมาร่วมเดินขบวนจากเจดีย์ชเวดากองไปยังเจดีย์สุเหล่ กลางนครย่างกุ้ง และได้สวดมนต์แผ่เมตตาให้พระวีรธุปลอดภัยเป็นเวลาประมาณ 20 นาที จากนั้นก็ตะโกนว่า “ศาสนาพุทธจงเจริญ ขอให้พระวีรธุปลอดภัย”

นับตั้งแต่ปี 2012 ชาตินิยมเฟื่องฟูในเมียนมา กลุ่มพุทธสุดโต่งมักอ้างว่าศาสนาพุทธในเมียนมากำลังถูกทำลาย ชาวพุทธจึงควรต่อสู้กับภัยคุกคามจากศาสนาอื่น โดยเฉพาะศาสนาอิสลาม นอกจากนี้ กลุ่มพุทธสุดโต่งยังย้ำว่า รัฐบาลของอองซาน ซูจี มุขมนตรีแห่งรัฐเมียนมาให้ความสำคัญกับสิทธิมนุษยชนมากกว่าศาสนาพุทธ และการออกหมายจับพระวีรธุจึงถือเป็นการกดขี่พระสงฆ์ในประเทศ

พระเทซาวุนธะ แกนนำการชุมนุมและสมาชิกกลุ่มมาบาธา กลุ่มพุทธสุดโต่งของพระวีรธุกล่าวว่า ผู้เข้าร่วมการชุมนุมมีวิสัยทัศน์เรื่องศาสนาพุทธร่วมกัน พร้อมระบุว่า ปัจจุบัน พระสงฆ์ไม่กล้าทำหน้าที่ปกป้องเชื้อชาติและศาสนา เพราะรัฐบาลกดขี่ศาสนาพุทธ

อย่างไรก็ตาม การชุมนุมครั้งนี้เป็นการชุมนุมที่ไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลเมียนมาก่อน ซึ่งถือเป็นความผิดตามกฎหมายของเมียนมา แะผู้จัดการชุมนุมอาจต้องโทษจำคุก 3 - 12 เดือน

สำนักข่าวเดอะนิวยอร์กไทม์รายงานว่า แม้พระวีรธุจะเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในฐานะ “บินลาดินของศาสนาพุทธ” ที่ยุยงปลุกปั่นให้มีการลบล้างเผ่าพันธุ์ชาวโรฮิงญาในรัฐยะไข่ของเมียนมา แต่โทษสูงสุดก็มีเพียงการแบนจากมหาเถรสมาคมเมียนมาไม่ให้พระวีรธุขึ้นเทศน์เป็นเวลา 1 ปี แต่ฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้พระวีรธุถูกดำเนินคดีกลับเป็นเรื่องที่พระวีรธุวิพากษ์วิจารณ์อองซาน ซูจี มุขมนตรีแห่งรัฐเมียนมาและรัฐบาลพรรคเอ็นแอลดีว่าสนับสนุนชาวมุสลิม คอร์รัปชั่น และพยายามจะแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อเพื่อลดอำนาจของกองทัพ

ที่มา : Irrawaddy, New York Times