นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ขอใช้สิทธิ์ตามข้อบังคับการประชุมข้อ 50 และ 54 วงเล็บ 1 เสนอญัตติด่วนโดยไม่ต้องเสนอล่วงหน้า เพื่อให้สภาหารือกรณีทหารอียิปต์และลูกคณะทูตซูดานที่ติดเชื้อโควิด-19 เข้าประเทศ โดยนพ.ชลน่าน ตั้งข้อสังเกตว่า แม้ทั้ง 2 กรณีจะเข้าข่ายผ่อนปรนให้เข้ามาในราชอาณาจักร ตามข้อกำหนดฉบับที่ 12 ตามมาตรา 9 ของ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่ไม่ได้ระบุให้ยกเว้นการดำเนินมาตรการด้านสาธารณสุข จึงต้องมีมาตรการป้องกันและควบคุมโรคที่มีผลลัพท์เช่นเดียวกับคนทั่วไป แต่สิ่งที่เกิดขึ้นฝ่ายปฏิบัติไม่ทำตามระบบ เนื่องจากคำสั่งและแนวทางปฏิบัติหละหลวม จนเกิดความเสี่ยงการระบาดรอบ 2
ทั้งที่ประชาชนการ์ดไม่ตก อดทนทำทุกอย่าง เพราะผู้บริหารประเทศ ศบค.หน่วยงานรัฐ ไม่สามารถช่วยเหลือได้ และควรเร่งสร้างความเชื่อมั่นให้คนไทยโดยรวมและในพื้นที่เกิดเหตุ ให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคติดเชื้อโควิด-19 แต่สิ่งที่เกิดขึ้นนายกรัฐมนตรีขอโทษแบบขอไปที ไม่มีคำขอโทษอย่างเป็นทางการและไม่มีมาตรการแก้ปัญหา และไม่จำเป็นต้องระงับการเข้าประเทศ เพียงแต่ต้องควบคุมให้ได้ พร้อมเรียกร้องให้ยกเลิกการใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เพราะทำให้การจัดซื้อจัดจ้างในงบฟื้นฟูเศรษฐกิจ 4 แสนล้านบาทเกิดปัญหา
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า หลังจากบริหารแล้วเศรษฐกิจล้มเหลวมา 5 ปี ปกติแล้วถ้าเป็นบริษัทต้องให้ซีอีโอลาออก แต่นี่คือประเทศไทยที่มีนายกรัฐมนตรีชื่อ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จึงมีสิทธิ์ได้แค่บอกให้ปรับปรุงตัว ไม่มีสิทธิ์บอกให้ลาออกได้เลยแม้จะเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ จึงมีทางเลือกเปลี่ยนผู้บริหารหรือผู้บริหารก็ต้องเปลี่ยนวิธีคิด
อ่านเพิ่มเติม