ไม่พบผลการค้นหา
‘เผ่าภูมิ โรจนสกุล’ รมช.คลัง ลงพื้นที่ศึกษาเทคโนโลยีการผลิตสินค้าน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (SAF : Sustainable Aviation Fuel) รองรับมาตรฐานสากล พร้อมสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมการบินที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

วันที่ 7 มีนาคม 2568 ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วย ดร.กุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมสรรพสามิต และคณะผู้บริหารกรมสรรพสามิต ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมผู้ประกอบอุตสาหกรรมน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมันราย บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) (บริษัทฯ) ณ จังหวัดระยอง เพื่อศึกษาเทคโนโลยีการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (SAF : Sustainable Aviation Fuel)  ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงทางเลือกที่ผลิตจากแหล่งพลังงานที่ยั่งยืน เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการกำกับดูแลและการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตสำหรับสินค้าน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมันเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การผลิตเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel: SAF) เป็นการนำผลิตภัณฑ์ชีวภาพมาใช้ร่วมกับน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน ซึ่งการใช้ SAF สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึงร้อยละ 80 เมื่อเทียบกับการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานทั่วไป สอดคล้องกับเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ของประเทศไทยภายในปี พ.ศ. 2593 (ค.ศ. 2050) โดยต้องเป็นไปตามมาตรฐาน ISCC CORSIA (International Sustainability and Carbon Certification – Carbon Offsetting and Reduction Scheme for International Aviation) ที่เป็นมาตรฐาน สากลที่ยอมรับในอุตสาหกรรมการบิน ทั้งนี้ ในระยะแรกคาดว่าประเทศไทยจะมีการผลิตอยู่ที่ประมาณ 10 ล้านลิตรต่อปี โดยจะมีการนำเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืนไปใช้กับเที่ยวบินทั้งในประเทศและต่างประเทศ และจะมีการขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับความต้องการพลังงานทดแทนของอุตสาหกรรมการบินพาณิชย์ที่ขยายตัว อย่างรวดเร็ว ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญของการพัฒนาเครือข่ายการจัดจำหน่ายที่ครอบคลุมทั่วภูมิภาค พร้อมสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมการบินที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ดร.กุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมสรรพสามิตให้ความสำคัญกับการใช้ทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่อย่างยั่งยืน ที่ผ่านมากรมฯ มีมาตรการเพื่อส่งเสริมให้เกิดผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ประกอบด้วยการจัดเก็บภาษีรถยนต์ตามอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ มาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และภาษีคาร์บอน (Carbon tax) เป็นต้น ในส่วนของการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตน้ำมัน SAF และน้ำมันชีวภาพประเภทอื่น ๆ นั้น กรมฯ อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการสนับสนุนกระบวนการผลิตสินค้าน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมันที่มีการนำวัตถุดิบที่มีความยั่งยืน ซึ่งปัจจุบันกระบวนการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (SAF) มีความหลากหลายทั้งทางวัตถุดิบตั้งต้นและเทคโนโลยีการผลิต จึงต้องมีการศึกษาอย่างรอบด้านเพื่อให้การกำกับดูแลและการจัดเก็บภาษีน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมันที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน

ทั้งนี้ ดร. เผ่าภูมิฯ กล่าวทิ้งท้ายว่า จะนำข้อมูลที่ได้จากการตรวจเยี่ยมในวันนี้ไปพิจารณาแนวทางการดำเนินนโยบายของกระทรวงการคลัง ที่พร้อมให้การสนับสนุนกระบวนการผลิตเชื้อเพลิงที่มีความยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับวัตถุดิบทางการเกษตรและเกิดการนำของเสียกลับมาใช้ใหม่ และเพื่อส่งเสริมศักยภาพในการผลิตพลังงานชีวภาพของไทย เพื่อก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการบินคาร์บอนต่ำของภูมิภาคอาเซียนต่อไป