พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวถึงกรณีที่ นายสิระ เจนจาคะ และน.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ มีการขอสลับตำแหน่งกับ ส.ส.พรรคเดียวกัน และขอย้ายมาร่วม เป็น กรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ว่า อาจจะเข้ามาเพราะเล่นเกมการเมือง ไม่มีความรู้ในงานด้านนี้ เข้ามาทำงานได้ก็ทำ แต่หากทำไม่ได้ก็คงออกไปเอง 

ส่วนกรณี นายพยม พรหมเพชร ส.ส.สงขลา พรรคพลังประชารัฐ ที่ขอลาออกจาก กรรมาธิการป้องกันและ ปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ กมธ.ป.ป.ช. โดยมีการให้เหตุผลว่าทนทำงานกับตนไม่ได้ เพราะตนทำงานมุ่งเเต่เรื่องการเมือง เเละการโจมตีรัฐบาล เเละบางคนก็ระบุว่าตนเป็น ส.ส.สมัยเเรก ไม่เข้าใจระบบการทำงานนั้น ตนขอชี้เเจงว่า ถึงเเม้ตนเองจะเป็น ส.ส.สมัยเเรก เเต่ก็เคยดำรงตำเเหน่งเป็นผู้บัญชาการตำรวจเเห่งชาติมาก่อน ดังนั้นเรื่องป้องกันเเละปราบปรามการทุจริตหรือประพฤติมิชอบ ตนมีประสบการณ์มามาก เเต่ในทางกลับกัน คนที่เป็น ส.ส.มาหลายสมัย ก็ไม่ได้หมายความว่าจะทำงานได้ดี

นอกจากนี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ จะเสนอชื่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาปัญหาและแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า เป็นเรื่องดี เพราะ นายอภิสิทธิ์ เป็นผู้มีความรู้ความสามารถ รวมถึงที่ผ่านมาเคยระบุว่าไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยังอ้างว่ารู้สึกไม่เข้าใจที่ท้ายที่สุด พรรคประชาธิปัตย์พลิกกลับไปเข้าร่วมกับรัฐบาล จนเหมือนว่าคำพูดของนายอภิสิทธิ์ ไม่มีความหมาย

เลื่อนวาระเชิญพล.อ.ประวิตร ชี้เเจง หลังติดประชุมครม.สัญจร 

ด้าน นายประสาน หวังรัตนปรานี กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในบังคับบัญชา พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี นำหนังสือของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เข้ายื่นต่อประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอเลื่อนการชี้แจงข้อเท็จจริงในวันนี้ (6พ.ย.) โดยระบุในหนังสือว่าติดภารกิจในการร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี

ทั้งนี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ระบุว่า วาระการเชิญ พล.อ.ประวิตร ชี้แจงในวันนี้ก็จะเลื่อนออกไปก่อน ส่วนจะมีการเชิญเมื่อใดอีกนั้น ขอหารือภายในกรรมาธิการก่อน พร้อมกับขอบคุณทางไปยัง พล.อ.ประวิตร ที่ทำหนังสือชี้แจงดังกล่าวมากทำให้เห็นว่าเป็นการให้เกียรติต่อสภาผู้แทนราษฎรไม่ได้เอาเรื่องการเมืองมาเกี่ยวข้อง