รายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ สถานีโทรทัศน์ช่อง 3 รายงานอ้างคำให้สัมภาษณ์ของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ซึ่งยอมรับว่า เสียงในคลิป เป็นการสนทนาของตัวเองกับ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. แต่ไม่ได้สั่งให้เบรกหรือแทรกแซงการทำ "คดียิงรถบิ๊กโจ๊ก" พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล เพียงต้องการกำชับให้ พล.ต.อ.วิระชัย ปฎิบัติงานไปตามหน้าที่ซึ่งมอบหมาย ส่วนคลิปเสียงที่หลุดออกมาไม่ทราบใครปล่อย ต้องดูว่าใครได้ประโยชน์
ส่วนที่ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และอดีตผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) ระบุว่า ถ้าเป็น ผบ.ตร.แล้วจับคนร้ายไม่ได้ จะแสดงความรับผิดชอบ พล.ต.อ.จักทรทิพย์ กล่าวว่า ก็คงมีคนลาออกไปหลายคนแล้ว
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร.กล่าวว่า คลิปเสียงที่สื่อมวลชนและสื่อสังคมออนไลน์ได้นำเสนอไป รอง โฆษก ตร. ได้นั่งอยู่ด้วย เป็นบทสนทนาระหว่าง "ท่าน ผบ.ตร. และพล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. จริง" ซึ่งเป็นการกำชับการปฏิบัติหน้าที่ของผู้บังคับบัญชา ระดับ ตร. ตามปกติ ในการทำงานให้เป็นพี่เลี้ยง ทำการกำกับ ดูแล ให้การสนับสนุน และปล่อยให้หน่วยที่รับผิดชอบได้ดำเนินการตามหน้างานตามปกติไป
คดีนี้กองบัญชาการตำรวจนครบาลได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนตามขั้นตอน และได้รายงานให้ท่าน ผบ.ตร.ทราบเป็นระยะๆ
โฆษก ตร.กล่าวอีกว่า เรื่องการอัดคลิปเสียง และมีการปล่อยเสียงสนทนานั้นลงในโลกโซเชียลมีเดีย ไม่ทราบว่าใครอัดและอยากรู้เหมือนกันว่าใครทำ เพราะโดยมารยาทแล้วการสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างบุคคล ไม่ควรอัดบทสนทนาเอาไว้ ยกเว้นคู่สนทนาจะมีเจตนารมณ์แอบแฝงในทางที่ไม่ดี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :