วันที่ 30 มี.ค. 2566 ที่พรรคเพื่อไทย ชัยเกษม นิติสิริ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีถึงความพร้อมหากได้รับมอบหมายจากพรรคเพื่อไทยให้เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีว่า แน่นอนว่าพร้อม ถ้าพรรคเห็นความเหมาะสมอย่างไร ตนก็รับได้ แม้ว่าควาวามประสงค์ของตัวเองไม่ได้ตั้งความมุ่งหมายนี้ไว้ เพราะอายุพอสมควรแล้ว และเป็นภาระที่หนัก แต่ถ้าพรรคมอบหมายก็ยินดี แต่ยังไม่แน่ เพราะยังไม่ได้ประชุมคณะกรรมการบริหาร และต้องรอความชัดเจนในวันที่ 4 เม.ย. และเคยเรียนกับทางพรรคไปว่า ถ้าหากเข้ามาเป็นคนที่ 3 และเอ่ยชื่อมา พรรคได้เสียงพุ่งปรี๊ดที่ไม่ใช่ตน ก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด เพราะเราต้องการให้ได้คนที่ประชาชนต้องการ 

เมื่อถามย้ำว่า ถ้าถูกเสนอชื่อ ก็พร้อมใช่หรือไม่ ชัยเกษมตอบว่า เราอยู่การเมืองมา เราต้องพร้อม แต่ถ้าถามว่าจะทำได้ดีแค่ไหน คนที่พิจารณา ไม่ใช่ตน 

เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยเสนอรายชื่อที่มีความถนัดในแต่ละด้านที่แตกต่างกัน ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ คนรุ่นใหม่ ชัยเกษมตอบว่า ไม่ต้องห่วง เพื่อไทยมีทีมที่ดี ใครมาเป็นเราก็สามารถบริหารได้ ไม่มีใครที่เก่งทุกเรื่อง แต่ว่าทั้งสามคน เป็นคนที่เราพิจารณาแล้วว่า เป็นคนที่ซื่อสัตย์ สุจริต เป็นคนฉลาด และมีความสาารถในการบริหาร และทั้ง 3 คน ก็ทำให้ประชาชนมีความมั่นใจในคนที่เพื่อไทยเลือก

และถามว่า คุณสมบัติแคนดิเดตนายกฯคนที่ 3 มีความเชี่ยวชาญการเมืองหรือไม่ ชัยเกษม ตอบว่า ไม่ต้องห่วง ถ้าพรรคเลือกคนที่คิดว่าสามารถเป็นนายกฯได้ พรรคมีทีมงานสนับสนุนได้ ใครขึ้นมาเป็น มีความสามารถ มีดุลพินิจ และการตัดสินใจที่ดี เพราะเราทำงานเป็นทีม และเอาเข้าจริง ไม่ใช่ว่านายกฯจะสั่งได้ทุกเรื่อง เราไม่ใช่นายกฯที่มาจากการรัฐประหาร ที่จะทุบโต๊ะทำอะไรก็ได้ เรามาจากประชาชน เราฟังเสียงประชาชน ฟังแม้กระทั่งเสียงในพรรคและในสภาด้วย 

เมื่อถามย้ำอีกว่า ถ้าพรรคเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯ ก็ต้องรับใช่หรือไม่ ชัยเกษมตอบว่า ใช่ ยังไงต้องรับ ถ้าพรรคเห็นว่าเหมาะสม แต่ว่า ถึงแม้จะเสนอ 3 ชื่อ ก็ไม่จำเป็นต้อเรียงตามลำดับ 1-2-3 เพราะถึงเวลานั้น ก็จะตอบเองว่าใครเหมาะสมสำหรับการเป็นนายกรัฐมนตรี และย้ำว่าทั้ง 3 คน บริหารประเทศได้ และมีทีมงานที่ดี

เมื่อถามอีกว่า พรรคทาบทามหรือยัง ชัยเกษมตอบว่า ยัง เพราะพรรคยังไม่ได้ประชุม เพียงแต่พูดกันไปในพรรค ซึ่งตนก็ไม่มีสิทธิที่จะปฏิเสธว่าใช่หรือไม่ เพราะยังไม่มีมติเสนอตนเอง ส่วนที่เป็นข่าวออกมา ก็เพราะว่ารอบที่แล้วตนนั้นเป็นหนึ่งในแคนดิเดตนายกฯ แต่ว่าถ้าไม่ให้เป็น ก็ไม่เสียใจ และจะสบายใจเสียด้วยซ้ำ

ชัยเกษม กล่าวอีกว่า เมื่อพรรคเพื่อไทยได้รับเสียงข้างมาก คนที่เป็นนายกรัฐมนตรีก็ควรจะเป็นแคนดิเดตจากพรรคเพื่อไทย จะไปปล่อยให้คนอื่นซึ่งควบคุมไม่ได้ เป็นผู้บริหารคงไม่ได้ เพราะพรรครับผิดชอบต่อประชาชนที่เลือกเราเข้ามา

เมื่อถามว่า รัฐบาลคครั้งหน้า อาจจะเป็นของฝั่งพรรคฝ่ายรัฐบาลปัจจุบัน เช่นพรรคพลังประชารัฐ เพราะเขามี ส.ว. 250 คน ช่วยเลือก ชัยเกษม ตอบว่า เรื่องการตั้งรัฐบาล ต้องรอให้การเลือกตั้งผ่านไปก่อน ถึงจะอกได้ว่า ใครจะรวมกับใคร แต่อย่างไรก็ตาม เราจะต้องพิจารณาคนที่เป็นประชาธิปไตย ถ้าสมมติจะให้เราไปอยู่ร่วมกับพรรคที่เป็นเผด็จการ 100% เป็นไปไม่ได้แน่นอน