นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ยืนยัน ตนเองพร้อมด้วย รัฐมนตรีทั้ง 3 คน ยังไม่ลาออกจากตำแหน่ง รอให้ถึงเวลาที่เหมาะสม ซึ่งขณะนี้ ได้รับทราบกำหนดวันเลือกตั้งที่ชัดเจน โดยจะมีการรับสมัคร ส.ส.ในวันที่ 4-8 ก.พ. พร้อมกันนี้ พรรคจะมีพิจารณาเสนอชื่อบุคคลเป็นนายกรัฐมนตรี ตอนนี้ยังไม่ได้ทาบทามใครมาเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี แต่ได้มีการหารือกันในพรรคบ้างแล้ว ยืนยันหากเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จะไม่เป็นการสืบทอดอำนาจ คสช. อย่างแน่นอน เพราะในพรรคแทบไม่มีใครติดยศทางทหาร หากเปิดรายชื่อว่าที่ ส.ส. 350 คน เพราะพรรคพลังประชารัฐเกิดจากการรวมพลังของคน
ส่วนเมื่อวานนี้ (23 ม.ค.) ที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เรียกพบด่วน เป็นการพบปะพูดคุยกันเรื่องเศรษฐกิจ และทานข้าวกันเท่านั้น ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ
เมื่อถามว่า การจะเสนอชื่อ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะตอบโจทย์เรื่องการขจัดความขัดแย้งได้หรือไม่นั้น นายอุตตม ระบุว่า ยังไม่ขอพูดถึงชื่อพลเอกประยุทธ์ เพราะยังไปไม่ถึงขั้นตอนนั้น โดยจะให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน ว่ารายชื่อที่เสนอมานั้นจะสร้างความปรองดองหรือไม่ นายอุตตม ยังกล่าวถึงการเชิญกรรมการบริหารพรรคประชุมเพื่อเลือกบุคคลที่จะเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคในวันที่ 28 ม.ค. นี้ ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะได้รายชื่อในวันดังกล่าวหรือไม่
แต่ยอมรับว่ามี ชื่อนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ถูกเสนอชื่อเข้ามาด้วย แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายชื่อ เพราะต้องให้เกียรติ กรรมการบริหารพรรค ส่วนกรณีที่นายพุทธิพงษ์ ปุณกันต์ แกนนำพรรคพลังประชารัฐ ระบุว่าหากเปิดรายชื่อ แคนดิเดตนายกของพรรคมามีเฮนั้น นายอุตตม ระบุว่า มั่นใจว่า เมื่อเปิดรายชื่อออกมาจะมีเฮทั้งประเทศแน่นอน ซึ่งเสียงเฮ คือ เสียงของความพอใจ ส่วนสิ้นเดือนจะรับเงินเดือนรัฐมนตรีสุดท้ายหรือไม่ นายอุตตม ไม่ตอบ พร้อมหัวเราะ ทำไมไม่ถามว่าได้เงินเดือนเท่าไร หรือได้เงินเดือนเต็มเดือนหรือไม่
ไม่กังวล 'เสรีพิศุทธ์' ยื่น ปปง. ตรวจสอบฟอกเงิน ค้ามนุษย์
ส่วนกรณีที่นายเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ยื่นเอกสารต่อ ปปง. ให้ตรวจสอบพรรคพลังประชารัฐ เข้าข่ายฟอกเงินและค้ามนุษย์จากการดูดอดีต ส.ส.จากพรรคต่างๆ นายอุตตม ตกใจ พร้อมกล่าวว่า ฟังแล้วก็มึนๆ ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะยื่น เพราะเรื่องนี้เป็นหน้าที่ของปปง.ที่จะรับเรื่องหรือไม่ แต่ไม่กังวลว่าจะกระทบภาพลักษณ์ของพรรคในการเลือกตั้ง เพราะประชาชนทุกคนรู้ว่าใครยื่นด้วยเหตุผลอะไร พร้อมยืนยันว่า สมาชิกพรรคทุกคน โปร่งใส
ส่วนที่หลายพรรควิจารณ์ว่า หากพรรคพลังประชารัฐสามารถแก้ปัญหาปากท้องได้จริง เหตุใดไม่แก้ในขณะดำรงตำแหน่ง ต้องรอให้มีการเลือกตั้ง นายอุตตม ยืนยันว่าตลอดเวลาที่ทำงานมาเศรษฐกิจดีขึ้นโดยอ้างสถิติของธนาคาร โลกและWorld Economic Forum (WEF) ซึ่งไม่ได้ดีแค่ภาพใหญ่ แต่ดีไปยังเนื้อใน ทั้งการจ้างงานและการลงทุนที่ดีขึ้น รวมทั้งความสามารถในการแข่งขัยของประเทศไทยก้ปรับตัวดีขึ้น แต่ที่เศรษฐกิจแย่ในที่ผ่านมา เกิดจากปัญหาที่สั่งสมมานานาและเพิ่งส่งผล ดังนั้นจึงต้องค่อยๆแก้ปัญหา หลังการเลือกตั้งก็จะมี การสานต่อนโยบายเดิมและเพิ่มนโยบายใหม่เข้าไปด้วย
ส่วนนโยบายที่เน้นรัฐสวัสดิการ จะทำให้ประชานและเศรษฐกิจอ่อนแอหรือไม่ นายอุตม กล่าวว่า นอกจากนโยบานรัฐสวัสดิการ จะมีนโนบายเศรษฐกิจ ควบคู่ไปด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :