ต่างประเทศ
ยูเครนชักธงชาติขึ้นยอดเสาบนเกาะงู หลังรัสเซียถอนกำลังออก
“ปฏิบัติการทางทหารสิ้นสุดลง และเกาะงูได้กลับสู่เขตอำนาจของยูเครนแล้ว” นาตาเลีย ฮูเมนิก โฆษกกองบัญชาการทหารทางใต้ของยูเครน กล่าวกับผู้สื่อข่าว โดยก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 23.00 น. ของวันจันทร์ (4 ก.ค.) กองทัพของยูเครนระบุว่า ธงประจำชาติของตนได้ถูกส่งคืนไปยังเกาะงูนี้แล้วโดยเฮลิคอปเตอร์ และจะมีการเชิญธงขึ้นทันทีเมื่อกองทัพยูเครนมาถึงเกาะ
“ธงได้ถูกส่งไปที่เกาะงูโดยเฮลิคอปเตอร์ และเมื่อทหารยูเครนมาถึง ธงก็จะโบกสะบัดอีกครั้ง "ฮูเมนิกกล่าว อีกทั้งยังย้ำว่าคำกล่าวของเธอก่อนหน้านี้ อาจถูกเข้าใจผิดว่าเป็นแค่การเปรียบเทียบเฉยๆ“ไม่มีใครลงจอดบนเกาะ แล้วใครจะติดตั้งและชักธงขึ้น เราจะไม่เอาคนไปเสี่ยงเพียงเพื่อภาพถ่าย” เธอกล่าวเสริม
ยูเครนถือว่าการยึดกาะงูคืนมาเป็นของตนอีกครั้ง เป็นก้าวสำคัญในการคลายการปิดล้อมของรัสเซียที่ท่าเรือทางตอนใต้ของประเทศ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่ากองทหารยูเครนจะตั้งฐานทัพที่นั่นอีกครั้งหรือไม่ เพราะเกาะงูเป็นจุดเสี่ยงต่อการถูกทิ้งระเบิดโดยรัสเซีย
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (3 ก.ค.) เจ้าหน้าที่ทางการทหารกล่าวว่า พื้นที่ของทะเลดำรอบเกาะงู ยังคงเป็น "พื้นที่สีเทา" ซึ่งหมายความว่า ยูเครนยังไม่มีความประสงค์ที่จะนำกองกำลังของตนกลับมาประจำการบนเกาะอีกครั้ง
เกาะงูกลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก เมื่อรัสเซียบุกยึดมันได้ในเดือน ก.พ. โดยมีทหารยูเครนนายหนึ่งที่ประจำการบนเกาะงู โต้ตอบกับเรือรบรัสเซียที่บุกเข้ามาว่า "ไปตายซะพวกมึง" ซึ่งในเวลาต่อมา วลีนี้ได้กลายเป็นคำขวัญในการต่อต้านของยูเครนจากการรุกรานของรัสเซียที่ได้รับความนิยมมากที่สุด
นอกจากนี้ ทางการไปรษณีย์ของยูเครนออกแสตมป์รูปทหารยูเครนชูนิ้วกลางใส่เรือลาดตระเวนมอสควาของรัสเซีย ซึ่งถูกจมโดยยูเครนในเวลาต่อมา โดยตั้งแต่รัสเซียเข้ายึดเกาะงู กองทหารยูเครนได้พยายามยึดคืนเกาะดังกล่าวกว่าหลายครั้ง ก่อนจะยึดคืนได้สำเร็จเมื่อสัปดาห์ก่อน
รัสเซียอ้างว่าตนได้ถอนตัวออกจากเกาะแล้วเมื่อวันพฤหัสบดีก่อน (30 มิ.ย.) โดยเป็น "การแสดงความปรารถนาดี" เพื่อแสดงให้เห็นว่ารัสเซียไม่ได้ขัดขวางความพยายามขององค์การสหประชาชาติในการเปิดระเบียงมนุษยธรรมที่อนุญาตให้ส่งธัญพืชจากยูเครนออกจากบริเวณทะเลดำได้
ทั้งนี้ จากการโจมตีของรัสเซียในเมืองเซอร์เคียฟกาเมื่อวันศุกร์ (31 มิ.ย.) ทางการยูเครนมองว่าการโจมตีครั้งดังกล่าวเป็นการชำระแค้นคืนของทหารรัสเซีย ที่ถูกขับออกจากเกาะงูในวันพฤหัสบดี อย่างไรก็ดี การโจมตีครั้งนี้ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 21 คน ซึ่งเป็นเด็ก 2 คน จากการที่ขีปนาวุธรัสเซีย 2 หัวพุ่งชนตึกแฟลตหลายชั้นและห้างสรรพสินค้า
อีวาน บากานอฟ หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยของยูเครนกล่าวว่า “รัสเซียไม่สามารถชนะในสนามรบได้ พวกเขาจึงหันไปสังหารพลเรือนอย่างโหดเหี้ยมแทน”
“หลังจากที่รัสเซียถูกขับออกจากเกาะงู พวกเขาตัดสินใจที่จะตอบโต้ด้วยการมุ่งเป้าไปที่การสังหารพลเรือน” เขากล่าวเสริม
โวโลดีเมอร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครนกล่าวว่า แม้รัสเซียจะถอนกำลังไปแล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าภูมิภาคทะเลดำจะปลอดภัยเสียทีเดียว แต่การเคลื่อนไหวของรัสเซียในแถบนั้นได้ “ถูกจำกัด” อย่างมีนัยสำคัญ “เราจะผลักรัสเซียออกจากทะเลของเรา ดินแดนของเรา และท้องฟ้าของเรา อย่างเป็นขั้นเป็นตอน” เซเลนสกีกล่าว
นอกจากนี้ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (1 ก.ค.) ยูเครนกล่าวหารัสเซียว่าทิ้งฟอสฟอรัสขาวไว้บนเกาะงู โดยผู้เชี่ยวชาญทางทหารกล่าวว่า รัสเซียใช้มันเพื่อเผาอาวุธและกระสุนปืนที่ทิ้งไว้ที่นั่นก่อนจะล่าถอยออกจากเกาะไป
ที่มา:
