30 มีนาคมของทุกปี เป็นวันไบโพลาร์โลก ผู้เชี่ยวชาญ เปิดเผยว่า ผู้ที่มีอาการป่วยเป็นโรคไบโพลาร์ ควรยอมรับว่า ตนเองเป็นผู้ป่วย เพราะหากทานยาและเข้าพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอ ก็มีโอกาสหายเป็นปกติ
ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาโรคไบโพลาร์ หรือโรคสองขั้ว โรงพยาบาลศรีธัญญา เปิดเผยว่า การรักษาโรคนี้ ผู้ป่วยจะต้องยอมรับว่า ตนเองป่วยโรคไบโพลาร์เสียก่อน และเต็มใจเข้ารับการรักษาด้วยการใช้ยา เพื่อควบคุมอารมณ์ และการทำงานของระดับสารเคมีในสมอง ซึ่งมีโอกาสกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ
ขณะที่คนในครอบครัว หรือบุคคลใกล้ตัวผู้ป่วย ควรปรับทัศนคติว่า อาการป่วยโรคไบโพลาร์ ไม่ใช่อาการของคนนิสัยไม่ดี แต่เป็นโรคที่สามารถรักษาหายได้ สามารถดำเนินชีวิตร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้
ผู้ป่วยโรคไบโพลาร์ จะลักษณะ 2 ขั้ว คือมีช่วงภาวะเมเนีย (Mania) มีอารมณ์ดีผิดปกติ ความคิดแล่นเร็ว พูดมาก กระวนกระวายใจ และขาดสมาธิ
และช่วงภาวะซึมเศร้า จะสนใจเรื่องราวรอบๆ ตัวน้อยลง มีอาการซึมเศร้า มองตนเองว่าไร้ค่า รวมทั้ง มีความคิดอยากที่จะฆ่าตัวตาย ซึ่งมีสาเหตุมาจากสารเคมีในสมอง พันธุกรรม ความเครียด และเหตุการพลิกผันในชีวิต
องค์การอนามัยโลก กำหนดให้ 30 มีนาคมของทุกปี เป็นวันไบโพลาร์โลก พร้อมระบุว่า โรคนี้ก่อให้เกิดความสูญเสีย และความพิการ เป็นอันดับ 6 ของโลก ซึ่งเพศหญิงและเพศชายมีโอกาศเป็นในอัตราที่เท่ากัน อายุเฉลี่ยที่จะเริ่มพบอาการคือ 20-30 ปี โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่ จะไม่รู้ตัวว่าป่วย และไม่มีโอกาสเข้ารับการรักษา