สงครามกลางเมืองในซีเรียที่ดำเนินมากว่า 5 ปีทำให้จำนวนผู้อพยพเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุด UNHCR ระบุว่า ผู้ลี้ภัยชาวซีเรียกลายเป็นผู้ลี้ภัยกลุ่มใหญ่ที่สุดในโลกแล้ว และกำลังต้องการความช่วยเหลือจากนานาชาติอย่างมาก
นายอันโตนิโอ กูเตร์เรส ข้าหลวงใหญ่ด้านผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติหรือ UNHCR แถลงเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาระบุว่า จำนวนผู้ลี้ภัยหนีภัยสงครามกลางเมืองในซีเรียยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้มีผู้ลี้ภัยถึง 3 ล้าน 8 แสนคน ซึ่งทำให้ผู้ลี้ภัยชาวซีเรียกลายเป็นผู้ลี้ภัยกลุ่มใหญ่ที่สุดของโลกไปแล้ว
ปัจจุบัน ผู้ลี้ภัยชาวซีเรียที่อพยพออกนอกประเทศส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในเลบานอน จอร์แดน และตุรกี นายกูเตร์เรสระบุว่า จำนวนผู้ลี้ภัยตอนนี้เกินขีดความสามารถในการรับมือของประเทศปลายทางดังกล่าวแล้ว โดยผู้ลี้ภัยกว่า 2 ใน 3 มีคุณภาพชีวิตต่ำกว่ามาตรฐาน ขณะที่ความช่วยเหลือจากนานาชาติที่ส่งไป ก็ไม่เพียงพอต่อความต้องการของกลุ่มผู้ลี้ภัยแต่อย่างใด
ยิ่งไปกว่านั้น ก่อนหน้านี้ รัฐบาลเลบานอน ประเทศปลายทางที่รองรับผู้ลี้ภัยชาวซีเรียมากที่สุด ได้เพิ่มกฎระเบียบในการรับผู้อพยพชาวซีเรียเข้าประเทศให้เคร่งครัดมากขึ้นตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา ขณะที่องค์กรด้านสิทธิมนุษยชนก็รายงานว่า รัฐบาลจอร์แดนพยายามผลักดันผู้อพยพชาวซีเรียกลับประเทศ โดยไม่ให้ความช่วยเหลือด้านการแพทย์ก่อนเมื่อปีที่แล้ว
สงครามกลางเมืองซีเรียนั้นดำเนินเข้าสู่ปีที่ 5 แล้ว โดยนายกูเตร์เรสกล่าวว่า ไม่มีผู้ชนะที่แท้จริงในสงครามครั้งนี้ และผู้ที่สูญเสียมากที่สุดก็คือผู้ลี้ภัยและประชาชนในพื้นที่นั่นเอง นอกจากนี้ นายกูเตร์เรส ยังได้เรียกร้องให้ทั่วโลกเห็นความสำคัญของปัญหาดังกล่าว และเร่งช่วยเหลือผู้ลี้ภัยชาวซีเรียอย่างเร่งด่วนด้วย