นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่สื่อมวลชนเสนอข่าวว่า พรรคเพื่อไทยจะเสนอชื่อตนเองขึ้นเป็นบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรี ลำดับที่ 1 ซึ่งทำให้เกิดความขัดแย้งกับคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย โดยยืนยันว่า ไม่ได้มีปัญหาหรือความขัดแย้งใดๆ กับคุณหญิงสุดารัตน์ 

ส่วนจะเสนอชื่อใครเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ทุกอย่างขึ้นอยู่กับประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง ตนเองเป็นเพียงคนทำงาน มีหน้าที่เดินตามยุทธศาสตร์ของพรรคที่ได้กำหนดไว้ แม้ไม่มีตำแหน่งอะไร ไม่มีปัญหา ทำงานได้ทั้งหมดตามที่คุณหญิงสุดารัตน์เห็นว่าเหมาะสม พร้อมเชื่อว่าทุกคนจะเข้าใจ ส่วนกระแสข่าวที่ออกมา ตนเองยังแปลกใจว่ามาเกิดขึ้นได้อย่างไร

ขณะที่คุณหญิงสุดารัตน์ ย้ำว่า พรรคเพื่อไทยเตรียมพร้อมบุคคลที่จะเสนอชื่อขึ้นเป็นบัญชีรายชื่อนายกฯ ไว้ทั้งหมดแล้ว เพราะคนในพรรคเพื่อไทยมีความสามารถเหมาะสมหลายคน ทั้งนี้ การเปิดเผยรายชื่อได้ต่อเมื่อพลเอกประยุทธ์ ระบุวันเลือกตั้งที่ชัดเจน

ส่วนที่ก่อนหน้านี้ พรรคเพื่อไทยเคยประกาศว่า จะเปิดเผยทีมเพื่อไทยนั้น รอวันเวลาที่เหมาะสม ซึ่งการทำงานขับเคลื่อนการเลือกตั้งทั้งหมดไม่ได้มีเฉพาะตนเองและนายชัชชาติ แต่มีอีกหลายคนที่เป็นทีมที่มีความสามารถ โดยการจัดทีมแต่ละชุดขึ้นมา เพื่อจะให้เข้าไปแก้ปัญหาในแต่ละเรื่องที่มีอยู่ในขณะนี้ 

อย่างไรก็ตาม หากภายในสัปดาห์นี้ พระราชกฤษฎีกาประกาศ พรรคเพื่อไทยก็จะเปิดตัวทีมขับเคลื่อนงานทันที และพรรคจะจัดการประชุมเพื่อจัด ส.ส. บัญชีรายชื่อและ ส.ส. เขตให้ลงตัว และจัดบัญชีแคนดิเดตนายกฯให้ลงตัว แต่ปัญหาคือ ขณะนี้ ยังไม่ชัดเจนเรื่องวันเลือกตั้ง จึงยังประกาศอะไรไม่ได้

พร้อมย้ำว่า ทุกคนภายในพรรคเข้าใจและสามัคคีกันดี ไม่มีขัดแย้งหรือบาดหมางกัน แม้จะมีคนยุแหย่ให้ตีกันยังไง ทุกคนในพรรคเพื่อไทยก็จะจับมือกันทำงานในศึกเลือกตั้งครั้งนี้ พร้อมยอมรับ ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการงานก็หนักอยู่แล้ว แต่ก็ต้องทำต่อไป ภายใต้การเลือกตั้งที่กฎและกติกาที่เอารัดเอาเปรียบและการใช้อำนาจรัฐเข้ามาแทรกแซง แต่ทุกคนในพรรคเพื่อไทยก็พร้อมที่จะต่อสู้ 

ส่วนที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ประธานรณรงค์การหาเสียงพรรคพลังประชารัฐออกมาระบุว่า หากเลือกพรรคการเมืองเดิมๆ จะอยู่กับความขัดแย้งนั้น คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุว่า หากเลือกพรรคเพื่อไทย จะไม่มีความขัดแย้ง และจะได้ความสงบแบบมีคุณภาพ ไม่ใช่ความสงบแบบกระเป๋าแฟบ

ด้านนางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า แม้จะมีความพยายามสร้างให้เกิดความแตกแยกในพรรคเพื่อไทย ด้วยการสร้างข่าวเรื่องการแย่งชิงแคนดิเดตอันดับ 1 นายกรัฐมนตรี ของพรรคเพื่อไทยระหว่างคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทย กับนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ คณะทำงานด้านเศรษฐกิจของพรรคขึ้นมา แต่ก็ไม่สามารถทำลายหรือก่อให้เกิดความขัดแย้งในพรรคเพื่อไทยได้ วันนี้ทั้งคุณหญิงสุดารัตน์และนายชัชชาติ ก็ยังร่วมกันลงพื้นที่สำรวจการก่อสร้างรถไฟฟ้า บริเวณแยกลำสำลี เพื่อหาแนวทางการการแก้ไขปัญหาการจราจรให้กับคนกรุงเทพมหานครด้วยกัน  

สะท้อนให้เห็นถึงการทำงานเป็นทีมของพรรคเพื่อไทย เพราะว่าการบริหารประเทศไม่ใช่การเปิดร้านโชว์ห่วยที่สามารถขายของหรือบริหารร้านค้าเพียงคนเดียว ทุกคนในพรรคต้องร่วมมือกัน ซึ่งเป็นจุดเด่นของพรรคเพื่อไทยที่มีบุคลากร ที่สามารถเป็นผู้นำประเทศได้หลายคน นับได้ว่าพรรคเพื่อไทยมีความเป็นสถาบันทางการเมืองที่เข้มแข็ง

นางลดาวัลลิ์ กล่าวอีกว่า พรรคเพื่อไทยยังเป็นพรรคที่เน้นด้านนโยบายมากกว่าตัวบุคคลมาตั้งแต่ต้น ทำให้การบริหารประเทศที่ผ่านมาทำได้เป็นอย่างดีและได้ผลตลอดมา ไม่ว่าบุคลากรจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร เราก็ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนเสมอมา ดังจะเห็นได้ว่าแม้จะมี ส.ส.ในบางพื้นที่ย้ายไปสังกัดพรรคอื่นแต่ประชาชนก็ยังคงเลือกพรรคเพื่อไทยเหมือนเดิม เป็นการเลือกบนพื้นฐานของความพึงพอใจในนโยบายที่ช่วยพัฒนาประเทศและปากท้องของประชาชนมาโดยตลอดนั่นเอง