ไม่พบผลการค้นหา
คำถามที่ว่าทำไมจะต้องมีการทำเด็กหลอดแก้วจากพ่อแม่ถึง 3 คนด้วย คำตอบก็คือ เพราะวิธีการดังกล่าวสามารถป้องกันการถ่ายทอดความบกพร่องจากพ่อแม่ไปสู่ทารกได้นั่นเอง

คำถามที่ว่าทำไมจะต้องมีการทำเด็กหลอดแก้วจากพ่อแม่ถึง 3 คนด้วย คำตอบก็คือ เพราะวิธีการดังกล่าวสามารถป้องกันการถ่ายทอดความบกพร่องจากพ่อแม่ไปสู่ทารกได้นั่นเอง อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีข้อยืนยันที่ชัดเจนว่า วิธีการดังกล่าวจะมีผลกระทบด้านอื่นต่อตัวเด็กหรือไม่ 

 

In Vitro Fertilization หรือ IVF เป็น การปฏิสนธิภายนอกร่างกายรูปแบบหนึ่ง ที่ใกล้เคียงธรรมชาติมากที่สุด คือ การปล่อยให้มีการคัดเลือกตามธรรมชาติ โดยอสุจิที่แข็งแรงที่สุดเท่านั้นจึงจะสามารถทำการปฏิสนธิกับไข่ได้ วิธีนี้เป็นทางเลือกหนึ่งในการทำเด็กหลอดแก้ว เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาภาวะมีบุตรยากที่ไม่รุนแรงนัก ซึ่งเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมาสักพักหนึ่งแล้ว ทั้งในต่างประเทศและในประเทศไทย

แต่เมื่อวิทยาการก้าวไปไกลกว่านั้น พ่อแม่จำนวนมากกลับต้องการใช้วิธีนี้ เพื่อทำให้ลูกของตนเองสมบูรณ์มากที่สุด ด้วยการคัดเลือกไมโทคอนเดรีย ซึ่งทำหน้าที่เป็นแหล่งพลังงานของเซลล์ ที่มีสภาพที่แข็งแรง สมบูรณ์ จากผู้หญิงที่สมัครใจบริจาค มาผสมกับดีเอ็นเอของพวกตน กลายเป็นว่าเด็กคนนี้ จะเกิดจากการผสมเทียม ที่มีเซลล์ของผู้ร่วมบริจาครวมอยู่ด้วย คล้ายกับลักษณะพ่อแม่สามคน โดยในทางการแพทย์นั้น วิธีนี้ จะช่วยให้เด็กมีความแข็งแรง และช่วยลดปัญหาความบกพร่องทางพันธุกรรมลงได้

ซึ่งตามปกตินั้น ไมโทคอนเดรีย จะถ่ายทอดจากแม่สู่ลูก ดังนั้น แม่ที่มีไมโตคอนเดรียที่อ่อนแอ อาจทำให้ส่งผลกระทบต่อเด็กที่จะเกิดมาได้ โดยจากสถิติทางการแพทย์พบว่า เด็ก 1 ใน 6,500 คน จะมีความผิดปกติที่ไมโทคอนเดรีย ซึ่งเป็นบ่อเกิดของปัญหาหลายอย่าง เช่น ปัญหาด้านการมองเห็น ปัญหาการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ ไปจนถึงการเป็นโรคเบาหวาน

แต่การใช้วิธีดังกล่าว ยังเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย และยังไม่มีประเทศไหนอนุญาตให้ทำได้ จนกระทั่งอังกฤษได้มีการโหวตรับรองในเรื่องนี้ และคาดว่าจะเป็นประเทศแรกของโลก ที่อนุญาตให้มีการผสมเทียมในลักษณะพ่อแม่สามคนได้ในอนาคตอันใกล้นี้

อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการยืนยันได้อย่างชัดเจนว่า วิธีดังกล่าวจะปลอดภัยกับเด็กมากเพียงใด โดยกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับวิธีการนี้ แสดงความเห็นว่า รัฐบาลอังกฤษกำลังอนุญาตให้มีการใช้เทคโนโลยีในทางที่ผิด ซึ่งอาจจะส่งผลต่อคนรุ่นหลังของประเทศ โดยความเสี่ยงนี้จะไม่มีใครทราบได้ จนกว่าความผิดปกติทางพันธุกรรมจะปรากฏออกมาในเด็กรุ่นต่อไป ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นในอีกหลายสิบปีข้างหน้า

สำหรับฝ่ายที่ต่อต้านวิธีการนี้ นอกจากจะเป็นกลุ่มเคร่งศาสนาแล้ว ก็ยังมีกลุ่มการแพทย์ และหน่วยงานด้านสาธารณสุขอีกจำนวนหนึ่ง ที่ออกมาเตือนว่า การผสมเทียมในลักษณะนี้ อาจนำไปสู่ความเสี่ยงที่เด็กหรือลูกหลานของเด็กที่เกิดจากการผสมเทียม จะป่วยเป็นโรคมะเร็ง หรืออาจพบปัญหาแก่ก่อนวัยอันควร ที่สำคัญที่สุด เมื่อเด็กเกิดมาแล้ว หน่วยงานที่รับหน้าที่ผสมเทียม จะต้องคอยจับตาดูเด็กคนนี้ไปตลอดชีวิตต่อเนื่องไปจนถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน เพราะนี่เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ดังนั้น การเฝ้าติดตามข้อมูลจึงถือเป็นสิ่งสำคัญจำเป็นที่สุด

ซึ่งหลังจากนี้ คงต้องมีการถกเถียงเรื่องนี้กันโดยละเอียดอีกครั้ง เพื่อหาข้อสรุปร่วมกัน ต่อแนวทางที่จะดำเนินการกับเด็กที่จะเกิดจากการผสมเทียมด้วยวิธีนี้ต่อไป

สำหรับผู้หญิงที่เป็นผู้บริจาคไมโทคอนเดรียเพื่อใช้ในการผสมเทียมนั้น จะไม่มีสิทธิ์ในตัวเด็กที่เกิดมาแต่อย่างใด และเด็กคนนั้น จะไม่มีทางรู้ว่า ใครเป็นผู้บริจาค ซึ่งจะทำให้พ่อแม่ที่แท้จริงของพวกเขา ยังคงมีอยู่ 2 คนเช่นเดิม

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
185Article
76559Video
0Blog