ไม่พบผลการค้นหา
เยือน “ทุ่งสังหาร” เรียนรู้ประวัติศาสตร์เขมรแดง เพื่อบทเรียนไทย

มีโอกาสได้เดินทางไปเยือนกัมพูชาเมื่อไม่นานมานี้ จริงๆแล้วเป็นประเทศที่มีอะไรน่าค้นหามากๆครับ นอกจากที่เสียมราฐที่มี นครวัด-นครธม ที่ยิ่งใหญ่ติดอันดับสิ่งมหัศจรรย์ของโลกแล้ว พนมเปญ เมืองหลวงของกัมพูชาก็น่าไปเยือนเพื่อศึกษาประวัติศาสตร์รุ่นใหม่ โดยเฉพาะยุคเขมรแดงเรืองอำนาจเช่นเดียวกัน

พนมเปญทุกวันนี้ดูเฟื่องฟูและมีโอกาสเติบโตทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะเม็ดเงินจากนักลงทุนชาวเกาหลีใต้ เวียดนามและไทยที่เข้าไปดำเนินกิจการแต่เมื่อย้อนไป40กว่าปีก่อนที่นี่คือจุดเริ่มต้นของการสังหารหมู่ที่โหดเหี้ยมที่สุดครั้งหนึ่งของประวัติศาสตร์โลก “การบุกยึดพนมเปญ” ในวันที่ 17 เมษายน 2518

เมื่อพล พต และนวล เจีย มีความคิดจะปฏิวัติประเทศให้เป็นในระบอบสังคมนิยมคอมมิวนิสต์แบบสุดโต่ง โดยประกาศศักราชที่ 0 นับหนึ่งใหม่ “รีเซทประเทศ” ด้วยการยึดทรัพย์สินส่วนบุคคลเป็นของรัฐ และทำการจัดการเศรษฐกิจแบบสังคมนิยมชนชั้นเกษตรกรรมเต็มขั้น ส่งคนไปทำนาทำไร่ สังหารพวกผู้ดีและชนชั้นกลางโดยเชื่อว่าพวกเขาเหล่านี้เอารัดเอาเปรียบทางเศรษฐกิจ ไม่เว้นแม้กระทั่ง ครู ปัญญาชน หรือคนสวมแว่นที่ดูเป็นคนที่เหนือกว่าประชาชนทั่วไปด้วย

             

หลายๆคนคงได้ยินชื่อ “ทุ่งสังหาร” หรือ Killing Fields ซึ่งคาดว่ามีมากกว่า 3,000 แห่งทั่วประเทศ และมีคนตายในครั้งนั้นประมาณ 1ใน3ของประชากรทั้งประเทศ ผมได้มีโอกาสมาเยือน “เจืองเอ็ก” หรือทุ่งสังหารที่ขึ้นชื่อที่สุด และเป็นที่ตั้งของสถูปที่จัดสร้างเพื่อรำลึก ซึ่งตั้งอยู่ที่ชานเมืองพนมเปญ และปัจจุบันดูแลโดยทางการญี่ปุ่นเข้ามาบริหารจัดการพื้นที่

                            

 

เมื่อเราเข้ามาถึงบรรยากาศก็ชวนหดหู่ สถูปที่รำลึกตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า มีเครื่องฟังบรรยายหลายภาษารวมทั้งภาษาไทยให้เรากดฟัง และเดินแวะเยี่ยมชมตามจุด โดยเริ่มเล่าตั้งแต่การขนคนมายังจุดดังกล่าวในยามวิกาล ทุกคนถูกปิดตาและพาลงจากรถโดยไม่ทราบชะตากรรมว่าจะเจอกับอะไรบ้าง และถูกให้ไปนั่งรวมกันที่โรงเรือน คนที่มารวมกันที่นี่บ้างก็ถูกทรมานจากที่อื่นมาแล้ว

กลุ่มเขมรแดงจะค่อยๆทยอยเรียกคนออกไป พวกเขาเหล่านี้จะถูกบังคับให้สารภาพทั้งที่ตัวเองไม่ได้กระทำ เช่น เป็นสายให้ CIAบ้าง ขโมยของบ้าง หรือแม้กระทั่งคิดต่อต้าน “อังการ์” หรือองค์กรกลางของเขมรแดงบ้าง เมื่อพวกเขารับสารภาพ ก็จะถูกนำตัวไปสังหารทิ้ง และด้วยความที่เป็นประเทศที่ยากจนจึงไม่มีกระสุนเพียงพอสำหรับทุกคน ผู้ที่ถูกนำตัวไปรับโทษจะมีหน้าที่ขุดหลุมฝังขนาดใหญ่ ก่อนที่จะถูกสังหารโดยการใช้จอบและเสียมตีจนตาย และเมื่อผู้มาใหม่มาก็ถูกสังหารและผลักลงไปในหลุมที่ถูกขุดไว้ เป็นอย่างนี้วันแล้ววันเล่า

ไม่เว้นกระทั่งเด็กทารกหรือเด็กอ่อน ที่จะถูกสังหารด้วยการนำไปฟาดกับต้นไม้จนตาย เหยื่อที่เป็นผู้หญิงหลายรายถูกข่มขืนก่อนที่จะนำไปสังหาร ระหว่างทางเราอาจจะพบเห็นเศษผ้า และเศษกระดูกที่เล็ดรอดขึ้นมาจากผิวดิน เพราะจำนวนผู้ที่ถูกสังหารที่นี่มีเกินพันคน เมื่อเราวนมาถึงจุดสุดท้ายที่เป็นสถูปที่รำลึก จะพบว่ามีการจัดแสดงชิ้นส่วนของกระดูก กะโหลกและอุปกรณ์เครื่องใช้เป็นจำนวนมาก ผ่านกระบวนการนิติวิทยาศาสตร์เพื่อหาสาเหตุการตาย เพศ อายุของหัวกะโหลกนั้นๆ

                          

บทเรียนนี้ถือว่าเป็นบทเรียนราคาแพงเขมรแดงล่มสลายจากการเข้ามาแทรกแซงของกองทัพเวียดนามในปี 2521 มาขับไล่ทหารเขมรแดงออกจากพนมเปญไป เคยได้ชมภาพยนตร์สารคดี “Enemy of the people” ที่ไปสัมภาษณ์ นวล เจีย ผู้นำหมายเลข2ของเขมรแดงและทหารเขมรแดงที่ทุกวันนี้ก็กลับบ้านไปใช้ชีวิตเป็นเกษตรกรตามเดิม พวกเขาไม่รู้สึกว่าได้กระทำอะไรผิดไป เนื่องจากเชื่อว่าสิ่งที่เขาทำนั้นถูกต้อง

ย้อนกลับมาดูสังคมไทยการที่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งกระทำการละเมิดอีกกลุ่มหนึ่ง โดยอ้างความถูกต้องและความเหนือกว่า บิดเบือนกลไกของสังคม จนผิดเพี้ยนไปอย่างมาก อาจจะนำไปสู่การปะทะกัน แต่อาจจะไม่ถึงขั้นเขมรแดงเพราะยุคปัจจุบันเกิดแบบกรณีดังกล่าวค่อนข้างยาก

จงเรียนรู้บทเรียนของเขา เพื่อที่จะไม่เกิดขึ้นกับเรา …

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
185Article
76559Video
0Blog