ในขณะที่โลกกำลังให้ความสำคัญกับการปกป้องเสรีภาพสื่อ จากกรณีการสังหารหมู่พนักงานชาร์ลี เอ็บโด สิทธิของคนอีกกลุ่มหนึ่งก็กำลังเสี่ยงต่อการถูกคุกคามเช่นกัน นั่นก็คือบรรดาผู้อพยพ ทั้งในฝรั่งเศสและทั่วยุโรป ที่กำลังตกเป็นเป้าโจมตีว่าเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงปลอดภัยของคนท้องถิ่น
ทันทีที่ชัดเจนว่าโศกนาฏกรรมที่เกิดกับพนักงานและบรรณาธิการบริหารของชาร์ลี เอ็บโด เป็นฝีมือของผู้ก่อการร้ายมุสลิม และสาเหตุของการสังหารหมู่ คือการที่ชาร์ลี เอ็บโด ตีพิมพ์ภาพการ์ตูนล้อเลียนนบี มูฮัมหมัด และศาสนาอิสลาม นางมารีน เลอ แปน หัวหน้าพรรคการเมืองฝ่ายขวาสุดโต่งของฝรั่งเศสก็ออกมาโจมตีทันที ว่าการก่อการร้ายครั้งนี้ เกิดจากนโยบายที่ผิดพลาดของรัฐบาลฝ่ายซ้ายของนายฟรองซัวส์ ออลลองด์ ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ที่เปิดกว้างให้มีผู้อพยพชาวมุสลิมจากแอฟริกาและตะวันออกกลาง เข้ามาตั้งถิ่นฐานในประเทศมากเกินไปจนกลายเป็นการสร้างความแตกแยกในสังคมฝรั่งเศส
รัฐบาลฝ่ายซ้ายพยายามอย่างเต็มที่ ที่จะไม่ให้สังคมฝรั่งเศส เกิดกระแสของความเคียดแค้นเกลียดชังชาวมุสลิมในประเทศแบบเหมารวม จนกระทั่งทำให้ประเทศชาติแตกแยกมากยิ่งขึ้น ขณะที่บรรดาผู้นำมุสลิมในฝรั่งเศสก็ออกมาต่อต้านการสังหารหมู่ตั้งแต่แรก โดยยกย่องให้พนักงานชาร์ลี เอ็บโดที่เสียชีวิต เป็น "ผู้พลีชีพเพื่อเสรีภาพ"
ความพยายามเหล่านี้ดูเหมือนจะประสบความสำเร็จอย่างน่าชื่นชม เพราะจนถึงตอนนี้ ชาวฝรั่งเศสส่วนใหญ่ยังคงมีปฏิกิริยาไปในทางบวกต่อโศกนาฏกรรมชาร์ลี เอ็บโด นั่นก็คือการร่วมยืนหยัดเชิดชูเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น มากกว่าจะหมกมุ่นกับการชี้นิ้วหาคนผิด
แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่ากระแสนี้จะคงอยู่ได้ตลอดไป อย่าลืมว่าก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุการณ์สังหารหมู่ครั้งนี้ สังคมฝรั่งเศสและยุโรปโดยรวม โดยเฉพาะในเยอรมนี กำลังตึงเครียดจากปัญหาผู้อพยพหลั่งไหลเข้าประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนมุสลิม และรัฐบาลก็ต้องเฝ้าระวังการก่อการร้ายจากกลุ่ม IS จนกลายเป็นการสร้างความหวาดระแวงในสังคมต่อชาวมุสลิม
ภายใต้บรรยากาศเช่นนี้ ทำให้คาดเดาได้ว่าเมื่อกระแสเชิดชูเสรีภาพสื่อมอดลง ความจริงอันขมขื่นที่ว่าสังคมฝรั่งเศสไม่สามารถอยู่ร่วมกับชาวมุสลิมได้อย่างสนิทใจอีกต่อไป ก็จะปรากฏขึ้นมา และสร้างความหนักใจให้กับรัฐบาลอย่างแน่นอน และเมื่อถึงเวลานั้น ฝรั่งเศสต้องเลือกว่าจะยอมปรับเปลี่ยนนโยบายผู้อพยพให้เคร่งครัดยิ่งขึ้น รวมถึงออกมาตรการต่อต้านการก่อการร้ายที่เข้มงวด จนอาจกลายเป็นการละเมิดพลเมืองชาวมุสลิมส่วนน้อย หรือจะยอมรักษาเสรีภาพ ภราดรภาพ และความเสมอภาค อันเป็นหัวใจหลักของสาธารณรัฐฝรั่งเศส โดยใช้ความปลอดภัยของพลเมืองส่วนใหญ่ในประเทศเป็นเครื่องเดิมพัน
