ช่วงกลางดึกของวันที่ 25 ก.พ. ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลนั้น นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ อดีตพรรคอนาคตใหม่ อภิปรายไม่ไว้วางใจพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวหาคุกคามประชาชน ยุยงปลุกปั่น สร้างความแตกแยก ทำลายความรักและความสามัคคีของประชาชน โดยชี้ให้เห็นถึงการใช้ปฏิบัติการด้านข้อมูลข่าวสาร หรือ IO (Information Operation) ใช้เว็บไซต์หรือเพจเฟซบุ๊กปลอม คุกคามประชาชน นักวิชาการ นักสิทธิมนุษยชน ที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล ซึ่งคุกคามประชาชนหนักขึ้นเรื่อยๆ ราวกลับมีงบประมาณและบุคคลอยู่เบื้องหลังคอยสนับสนุน โดยจะเปิดโปงขบวนการโยงใยไปถึง พล.อ.ประยุทธ์
นายวิโรจน์ อภิปรายเปิดข้อมูลหลักฐานที่ได้ระหว่างเป็นคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 โดยพบเอกสารงบประมาณของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือ กอ.รมน. ที่ขึ้นตรงต่อพล.อ.ประยุทธ์ พบว่าหน้าที่ 14 ข้อที่ 10 ระบุถึงการจัดสรรงบประมาณที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ pulony.blogspot.com ได้รับการสนับสนุนงบประมาณมาตั้งแต่ปี 2560 ถึง 2562 ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาคอยเซี่ยมโจมตีนักสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และยังมีเพจเฟซบุ๊ก เครือข่ายคอยแชร์เนื้อหา ถือเป็นการบั่นทอนบรรยากาศการเจรจาเพื่อสร้างสันติสุขในจังหวัดชายแดนภาคใต้ พยายามโจมตีนักการเมืองในพื้นที่ ที่พยายามนำปัญหามาแก้ไขผ่านสภาผู้แทนราษฎร
ชี้ไอโอคุกคามฝ่ายการเมือง แฉเอกสารลับอบรมหน่วยข่าว
นายวิโรจน์ ยังอภิปรายเปิดโปงขบวนการไอโอ ที่คุกคามฝ่ายเห็นต่างทางการเมือง และพบหลักฐานเอกสารเชื่อมโยงหน่วยงานรัฐ โดยเปิดเผยเอกสารลับ 3 ฉบับ ลงวันที่ 25 เม.ย.2562 เกี่ยวกับการเข้าอบรมให้ความรู้เพิ่มเติมกับคณะทำงานปฏิบัติการข้อมูลข่าวสาร โดยมีเนื้อหาข้อ 1.1 เกี่ยวกับการซักซ้อมการปฏิบัติการข่าวสารที่หน่วยเหนือมอบให้ในแต่ละวัน มีการสอนการโพสต์ว่าไม่ต้องเรียงลำดับหัวข้อตามภารกิจที่มอบให้ เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกจับได้ว่าเป็น เฟซบุ๊กปลอมหรืออวตาร , หัวข้อที่ 1.3.2 แนะนำให้เจ้าหน้าที่ลงบัญชีเฟสอวตารหรือบัญชีผู้ใช้ปลอมหลายบัญชี เพื่อตอบโต้และพลีชีพทางออนไลน์ , หัวข้อที่ 1.3.3 แนะนำให้เจ้าหน้าที่สร้างบัญชีอวตาร โดยไม่ให้เกี่ยวพันกับบัญชีของตัวเองเพื่อป้องกันไม่ให้ถูกจับได้ , หัวข้อที่ 1.4.1 ให้เจ้าหน้าที่รับทราบและรายงานภารกิจทางกลุ่มไลน์ภายในเวลา 17 นาฬิกาของแต่ละวันตามแบบฟอร์มที่ส่งให้ และระบุในข้อ 2.2 ว่ามีการสนับสนุนค่าโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตเดือนละ 2,000 บาท
นายวิโรจน์ อภิปรายเปิดเอกสารฉบับที่ 2 ลงวันที่ 22 พ.ย. 2562 เรื่องสรุปผลการประชุมคณะทำงานด้านปฏิบัติการข้อมูลข่าวสาร โดยอ้างอิงถึงการประชุมวันที่ 4 พ.ย.2562 โดยมีพล.ท. พิสิษฐ์ ทรรพวสุ รองผอ.รมน.ภาค 2 เป็นประธานการประชุม โดยให้หน่วยระดับกองพล ระดับกรม ตรวจสอบยืนยันตัวผู้ปฏิบัติการข่าวสารที่ตั้งไว้หน่วยละ 5 นาย โดยให้ส่งข้อมูลยืนยันทุกวันที่ 5 ของเดือน ประชุมผ่าน VTC หรือวีดีโอเทเลคอนเฟอเรนซ์ทุกวันจันทร์ถึงศุกร์เวลา 10 นาฬิกา และสนับสนุนค่าใช้จ่ายที่จำเป็นหรือค่าโทรศัพท์ที่กองทัพบกจัดสรรให้ โดยเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการข่าวสารหรือไอโอจะได้เงินสนับสนุนค่าโทรศัพท์เดือนละ 300 บาท ซึ่งถือเป็นการใช้งบประมาณมาจากภาษีประชาชน
ซัด ประยุทธ์ มีร่วมส่วนเบื้องหลังไอโอผ่านสื่อโซเชียลฯ
จากนั้นนายวิโรจน์อภิปราย เปิดเอกสารฉบับที่ 3 ลงวันที่ 22 พ.ย. 2562 เช่นเดียวกัน โดยเป็นผลสรุปการประชุม มีเนื้อหาเหมือนหนังสือฉบับที่ 2 แต่สนับสนุนค่าโทรศัพท์ให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติการข่าวสารเพียงคนละ 100 บาท พร้อมสรุปว่าข้อมูลหลักฐานทั้งหมดนี้ ชี้ให้เห็นถึงการกระทำอย่างเป็นระบบ ซึ่งกองทัพคงไม่สามารถดำเนินการเองได้โดยพละการ ต้องมีคำสั่งมีการสนับสนุนภารกิจ มีการใช้งบประมาณ ซึ่งถือเป็นภารกิจคุกคามประชาชนผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย พร้อมกล่าวหา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เข้าไปมีส่วนร่วมอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ด้วย จนทำให้เกิดการประท้วงจาก ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล ว่าเป็นการกล่าวหาใส่ร้ายป้ายสีนายกรัฐมนตรี
แฉทหารเคยทำไอโอโจมตีฝ่ายตรงข้ามรัฐฐาล ใช้งบฯ รัฐ
นายวิโรจน์ ยังเปิดเผยหลักฐานคลิปวีดีโอ โดยอ้างว่าสัมภาษณ์ทหารที่เคยเกี่ยวข้องกับกระบวนการ IO ของกองทัพ เปิดเผยถึงการทำงานกระบวนการ IO เพื่อโจมตีฝ่ายเห็นต่างกับรัฐบาล แจ้งรายงานบัญชีฝ่ายที่เห็นต่าง ซึ่งมีการประชุมแบ่งงานกันทุกวัน และมีการเปิดกรุ๊ป LINE เพื่อสื่อสารวางแผนกันระหว่างกระบวนการ IO ให้ทำภารกิจเรื่อยๆ วนทุก 1 ชั่วโมง กดไลค์ กดเลิฟโพสต์ที่สนับสนุน กดเศร้า กดโกรธฝ่ายที่เห็นต่าง โดยเปิดเผยว่ามีบุคลากรขบวนการ IO รวมแล้วมากกว่า 1,000 คน ใช้งบประมาณของรัฐคุกคามฝ่ายเห็นต่าง จนทำให้นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ประท้วงว่า ผู้อภิปรายก็มาด้วยกระบวนการ IO ที่ไม่สุจริตเช่นเดียวกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง