หนึ่ง ในเหตุการณ์ที่สื่อไทยและสื่อต่างประเทศให้ความสนใจในช่วงปีนี้ คือการชูสามนิ้วเพื่อแสดงสัญลักษณ์ต่อต้านอำนาจรัฐ ทั้งในไทยและฮ่องกง ตามแบบหนังเรื่อง The Hunger Games จนเกิดการถกเถียงถึงความหมายที่แท้จริงของสัญลักษณ์แห่งปีนี้
หลังคณะรักษาความสงบแห่งชาติเข้ายึดอำนาจการปกครองได้ไม่นาน ต้นเดือนมิถุนายน มีประชาชนหลายกลุ่ม รวมตัวกันกลางกรุงหลายพื้นที่ เพื่อแสดงสัญลักษณ์คัดค้านการรัฐประหาร เช่น หน้าห้างเซ็นทรัลเวิล์ด ทางเดินสกายวอล์กที่แยกปทุมวัน และหน้าห้างเทอร์มินอล ทเวนตี้วัน ที่แยกอโศก
ทหารและตำรวจใช้กำลังเข้าควบคุมตัวประชาชนบางส่วน พร้อมตั้งข้อหาพวกเขาฝ่าฝืนกฎอัยการศึก และพยายามหยุดการชุมนุมเพื่อแสดงสัญลักษณ์
สัญลักษณ์ชูสามนิ้ว เริ่มเป็นที่รู้จักในหน้าสื่อ ผู้แสดงสัญลักษณ์ระบุว่า ต้องการสื่อถึง เสรีภาพ เสมอภาค และภราดรภาพ ที่หายไปจากสังคมไทย แต่ภายใต้การจำกัดเสรีภาพของกฎอัยการศึก ทำให้การแสดงสัญลักษณ์ต่อต้านรัฐประหารหายเงียบไปกว่า 5 เดือน จนกระทั่งเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน นักศึกษากลุ่มดาวดิน 5 คนได้ชูสามนิ้วและโชว์เสื้อที่มีข้อความว่าไม่เอารัฐประหาร ต่อหน้าพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระหว่างปฏิบัติภารกิจที่จังหวัดขอนแก่น นักศึกษาทั้ง 5 คนถูกควบคุมตัวไปปรับทัศนคติที่ค่ายศรีพัชรินทร จังหวัดขอนแก่น
วันถัดมา ยังมีการจับกุมนักศึกษาที่ชูสามนิ้วหน้าโรงภาพยนตร์สยามพารากอน ก่อนฉายหนังเรื่อง The Hunger Games โรงภาพยนตร์สกาล่าและลิโด้ ในกรุงเทพ ยังได้ประกาศยกเลิกรอบฉายทั้งหมดของหนังเรื่อง The Hunger Games
หลังนักศึกษากลุ่มธรรมศาสตร์เสรีเพื่อประชาธิปไตย ได้เชิญชวนประชาชนมาดูหนังพร้อมกันเพื่อเป็นการแสดงออกต่อต้านรัฐประหาร
หนังและวรรณกรรมเรื่อง The Hunger Games มีเนื้อหาเกี่ยวกับการต่อต้านอำนาจเผด็จการในประเทศสมมติชื่อพาเน็ม ซึ่งแบ่งแยกประชาชนออกเป็น 12 เขต ภายใต้การปกครองของ แคปปิตอล เขตที่มีอำนาจมากที่สุด และใช้กลวิธีต่างๆทำให้เขตอื่นแตกแยกและเกลียดชังกัน เพื่อป้องกันไม่ให้เขตอื่นรวมตัวกันก่อกบฏ
การชูสามนิ้วในเรื่องนี้ เดิมมีความหมายว่า ขอบคุณ สรรเสริญ และลาก่อน ซึ่งเป็นธรรมเนียมการส่งความรักอาลัยของประชาชนเขต 12 แต่ต่อมาประชาชาชนเขตต่างๆได้ใช้สัญลักษณ์นี้แสดงความรักต่อบุคคลที่ผู้ปกครองรัฐมองเป็นศัตรู ตั้งแต่นั้นมา ผู้ปกครองรัฐจึงมองว่าเป็นสัญลักษณ์แสดงความกระด้างกระเดื่อง และท้าทายอำนาจรัฐที่ต้องการแบ่งแยกประชาชนเขตต่างๆ
แม้จะมีการถกเถียงว่า การนำสัญลักษณ์ชูสามนิ้วมาใช้ต่อต้านรัฐประหารนั้น สอดคล้องกับความหมายในหนังหรือไม่
แต่การที่รัฐบาลใช้กำลังทางทหารจับกุมผู้แสดงสัญลักษณ์นี้ ยิ่งทำให้สัญลักษณ์สามนิ้วมีพลังทางการเมืองในโลกความจริง แทนที่จะเป็นเพียงสัญลักษณ์ที่กำกวมและไร้ความหมายต่ออำนาจรัฐ เพราะสื่อมวลชนไทยและสำนักข่าวใหญ่ระดับโลกต่างให้ความสนใจ กับความพยายามของรัฐบาลไทย ที่จะจับกุมผู้ชูสัญลักษณ์สามนิ้ว และการแสดงออกลักษณะเดียวกันในโลกออนไลน์ จนสหประชาชาติ แสดงความเป็นห่วงต่อสถานการณ์สิทธิเสรีภาพไทย
ไม่เพียงแต่ในประเทศไทย การชูสามนิ้ว ยังเป็นสัญลักษณ์ในการเรียกร้องประชาธิปไตยที่ฮ่องกงด้วย ต้นเดือนธันวาคม ประชาชนจำนวนมากชูสามนิ้วพร้อมกันทั่วย่านมงก๊ก เพื่อต่อต้านการที่รัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่แทรกแซงการคัดเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้งของฮ่องกง
ไม่ว่าสัญลักษณ์การประท้วงจะมีที่มาอย่างไร ผู้กำหนดความหมายที่แท้จริง คืออำนาจรัฐ เป้าหมายการประท้วง ว่าจะให้ความหมายและแสดงท่าทีต่อสัญลักษณ์นั้นอย่างไร