เมืองชายทะเลอันเงียบสงบและอุดมไปด้วยธรรมชาติ กับความกังวลเรื่องการเติบโตอย่างไร้ทิศทาง ที่ไม่สอดรับกับวิถีท้องถิ่น ของชาวขนอม
ในช่วง 2 ถึง 3 ปีที่ผ่านมา เมืองชายทะเลอันเงียบสงบและอุดมไปด้วยธรรมชาติที่สวยงามแปลกตาอย่าง อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช เนื้อหอมมากๆ ทั้งในหมู่นักลงทุนต่างชาติ และนักธุรกิจต่างถิ่น ที่ต่างเข้ามารุกคืบจับจองธุรกิจอสังหาริมทรัพย์กันเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ราคาที่ดินพุ่งสูงถึงไร่ละ 3-5ล้านบาท ท่ามกลางความกังวลเรื่องการเติบโตอย่างไร้ทิศทาง และเต็มไปด้วยสิ่งปลูกสร้างที่ไม่สอดรับกับวิถีท้องถิ่น ของชาวขนอม
วันนี้หากใครมาเยือนยังอ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช นอกจากหาดทรายสีขาวสะอาดตาที่ทอดยาวไปตลอดชายฝั่งกว่า 20 กิโลเมตร และธรรมชาติท้องทะเลอันสวยงามแปลกตาแล้ว ก็ยังจะได้เห็นโครงการคอนโดมิเนียมหรู บ้านจัดสรรราคาแพง รวมไปถึงรีสอร์ท ระดับไฮเอนท์ ทั้งที่สร้างเสร็จแล้ว และกำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง ผุดขึ้นมากมาย แสดงให้เห็นถึงการขยายตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่กำลังเฟื่องฟูอย่างมากนั่นเอง
ด้านคุณศุลีพร เสรีวิวัฒนา นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวอ.ขนอม และกรรมการผู้จัดการโรงแรมขนอมโกลเด้นบีช อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า ชาวต่างชาติส่วนใหญ่ที่เข้ามาลงทุนในอำเภอขนอมในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา จะเป็นกลุ่มทุนจาก ประเทศ เยอรมนี สวีเดน สวิสเซอร์แลนด รัสเซีย และฟินแลนด์ มาสร้างรีสอร์ต คอนโดมิเนียม และบ้านพักตากอากาศ รองรับลูกค้าชาวต่างชาติโดยเฉพาะ ราคาตั้งแต่ห้องละ 3,000 บาทไปจนถึง หลังละกว่า 10 ล้านบาทเลยทีเดียว ทำให้ราคาที่ดินพุ่งสูงขึ้นจาก 5 ปีที่แล้วหลายเท่าตัว จากไร่ละ 1-2 ล้านบาท เป็นไร่ละ 3-5 ล้านบาท
ซึ่งทางสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวอ.ขนอม ได้มีความห่วงใยในเรื่องของผลกระทบที่จะเกิดจากการเติบโตอย่างไร้ทิศทาง เต็มไปด้วยสิ่งปลูกสร้างที่ไม่สอดรับกับวิถีท้องถิ่น และนำไปสู่ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมในที่สุด จึงได้ร่วมกันผลักดันให้มีการกำหนดผังเมืองร่วมกันทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อควบคุมและจัดระเบียบการก่อสร้าง รวมไปถึงการระบายน้ำ และป้องกันการบุกรุกทำลายธรรมชาติ มา กว่า 8 ปีแล้ว แต่ก็ไม่ได้รับความสนใจจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเท่าที่ควร
อย่างไรก็ตาม คุณศุลีพร ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า อสังหาริมทรัพย์ที่ชาวต่างชาติถือครองนั้น ยังมีสัดส่วนที่ไม่มากนัก เพียงแค่ 5 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในการครอบครองของคนไทย อย่างรีสอร์ทหรูระดับไฮเอนด์ ราชาคีรี รีสอร์ท แอนด์ สปา ขนอมแห่งนี้
ซึ่งคุณสุมาลี พยุหนาวีชัย ผู้จัดการทั่วไป ราชาคีรี รีสอร์ท แอนด์ สปา ขนอม กล่าวว่า แม้ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาประเทศไทยจะประสบปัญหาความรุนแรงทางการเมือง แต่ขนอมกลับมีเม็ดเงินจากการท่องเที่ยวหมุนเวียนกว่า 300 ล้านบาทต่อปี และมีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี เฉลี่ย 15-20 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวใหม่อย่าง กลุ่มประเทศในแถบสแกนดิเนเวีย อย่าง สวีเดน ฟินแลนด์ และ เดนมาร์ค เข้ามาเป็นจำนวนมากและเพิ่มขึ้นทุกปี อีกทั้งไม่รู้สึกกังวลกับการเข้ามาของกลุ่มทุนจากต่างชาติและนักลงทุนจากต่างถิ่น เนื่องจากเห็นว่า น่าจะเป็นผลดีกับการท่องเที่ยวมากกว่า เพราะถือเป็นการเพิ่มตัวเลือกที่หลากหลาย ซึ่งจะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาท่องเที่ยวพักผ่อนมากขึ้นอีกทางหนึ่ง
Produced by VoiceTV