นาย นพพร ศุภพิพัฒน์ ออกจดหมายเปิดผนึก ยืนยัน ไม่ได้เป็นลูกหนี้และอุ้มนายบัณฑิต โชติวิทยะกุล เพื่อให้ลดหนี้ พร้อมปฏิเสธไม่รู้จัก 3 พี่น้องอดีตนามสกุล อัครพงศ์ปรีชา โดยระบุ ถูกใส่ร้ายและถูกขูดรีด มากกว่า 100 ล้านบาท
นาย นพพร ศุภพิพัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และกรรโชกทรัพย์ กรณีขู่ให้นายบัณฑิต โชติวิทยะกุล ลดหนี้จาก 120 ล้านบาท ได้ออกจดหมาย ชี้แจงว่า ตกเป็นเหยื่อผู้ถูกใส่ร้ายป้ายสีและขูดรีด
พร้อมยืนยันไม่ได้เป็นลูกหนี้ นายบัณฑิต ทั้งทางตรงและทางอ้อมตั้งแต่ปี 2555 แต่เคยร่วมลงทุนบริษัท กริฟฟอน อินเตอร์เนชั่นแนล โฮลดิ้ง โดยนายนพพร ถือหุ้นร้อยละ 40 เมื่อปี 2543 และตนได้ยืมเงินบริษัท 17 ล้านบาท แต่ผู้ถือหุ้น 3 คนรวมทั้งนายบัณฑิต แจ้งความดำเนินคดีในข้อหายักยอกทรัพย์ จึงชำระเงินคืนบริษัทให้สถาบันการเงิน 8.9 ล้านบาท ในปี 2547 และปี 2555 ชำระคืน 17 ล้านบาท พร้อมทำสัญญายอมความกันที่ศาลฎีกา เมื่อเดือนเมษายน 2555 แต่นายบัณฑิต ยังไม่ยอมถอนฟ้อง ทั้งที่ได้ส่วนแบ่งจากเงิน 17 ล้านบาท
จากนั้น ได้เจรจากับนายบัณฑิตเพื่อแลกกับการถอนฟ้อง โดยนายบัณฑิตเสนอ 100 ล้านบาท จึงส่งสัญญายอมความ 50-60 ล้านบาท แต่ได้ปรึกษา นาวาโทปริญญา รักวาทิน หรือ เสธเจี๊ยบ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา ให้เชิญผู้ใหญ่เข้ามาไกล่เกลี่ย เพราะนายบัณทิต เป็นลูกชายของผู้มีอิทธิพลภาคใต้ และร่ำรวยจากการค้าของเถื่อน
โดยนาวาโท ปริญญา เรียกค่าดำเนินการ 30 ล้านบาท แต่กลับว่าจ้าง 3 พี่น้องอดีตนามสกุล อัครพงษ์ปรีชา มาบังคับให้นายบัณฑิต รับเงินแค่ 20 ล้าน ซึ่งผิดวัตถุประสงค์และเงื่อนไข ยืนยัน ตนเองไม่รู้จักกับ 3 พี่น้องดังกล่าว ทำให้นายบัณฑิต เพิ่มเงินเป็น 150 ล้านบาท แต่ตกลงที่ 120 ล้านบาท โดยมาทำสัญญายอมความที่ศาลในวันที่ 10 กรกฎาคมที่ผ่านมา ขณะที่ นาวาโทปริญญา เรียกเงินเพิ่มอีก 25 ล้านบาท แต่หลังจ่ายเงิน 5 ล้านบาท กังวลเรื่องความปลอดภัย จึงนัดมารับเงินสดช่วงสิ้นเดือนกรกฎาคม
ทั้งนี้ หลังเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สน.วัดพระยาไกร เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยเห็นพิรุธเมื่อตำรวจถามว่ารู้จัก "เจี๊ยบ" หรือไม่ และถูกบ่ายเบี่ยงเมื่อจะขอให้การเพิ่มเติมในวันที่ 30 พฤศจิกายน จึงเกรงว่าจะไม่ได้ประกันตัวและถูกปิดปากในเรือนจำ ทำให้ต้องหลบหนีออกนอกประเทศ และทำหนังสือชี้แจงดังกล่าว
ส่วนนาวาโท ปริญญา ได้เข้ามอบตัวเมื่อคืนที่ผ่านมา (6 ธ.ค.) โดยยอมรับว่าเกี่ยวข้องกับนายนพพร และนายชากานต์ ภาคภูมิ ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมแล้ว พร้อมเป็นคนนำเงินสดมาให้นายชากานต์ เป็นค่าจ้างให้แก๊งค์ไกล่เกลี่ยหนี้ แต่รายละเอียดคำรับสารภาพ ไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะอยู่ในสำนวนการสอบสวน โดยตำรวจจะนำตัวฝากขังต่อศาลทหารในวันจันทร์นี้ (8 ธ.ค.) พร้อมคัดค้านการประกันตัว