ไม่พบผลการค้นหา
การประท้วงต่อต้านรัฐบาลทั่วโลก ส่วนใหญ่มักเต็มไปด้วยความเครียด และหลายเหตุการณ์มีความรุนแรง แต่ก็มีผู้ชุมนุมหลายกลุ่ม ที่สามารถทำให้เป็นเรื่องตลกได้ วันนี้เราจะไปสำรวจว่าเสียง หัวเราะสามารถเป็นภัยกับอำนาจรัฐได้อย่างไร

การประท้วงต่อต้านรัฐบาลทั่วโลก ส่วนใหญ่มักเต็มไปด้วยความเครียด และหลายเหตุการณ์มีความรุนแรง แต่ก็มีผู้ชุมนุมหลายกลุ่ม ที่สามารถทำให้เป็นเรื่องตลกได้ วันนี้เราจะไปสำรวจว่าเสียง หัวเราะสามารถเป็นภัยกับอำนาจรัฐได้อย่างไร

เมื่อนึกภาพการประท้วง คุณนึกถึงอะไร ......ถือป้ายเดินขบวน ปราศรัย ปิดถนน ดันกับตำรวจ ต่อสู้ แต่ถ้าคิดว่าวิธีประท้วงเหล่านี้ธรรมดาไป บางคนก็ชอบใช้วิธีพิลึกๆ หรือบางครั้ง ผู้นำรัฐบาลไม่ยอมให้มีการประท้วง ก็ต้องใช้วิธีแยบยลขึ้น เช่นคนกลุ่มนี้เอารูปผู้นำไปแปะบนถังที่วางกลางถนน แล้วแปะข้อความล้อผู้นำว่า “ผู้นำของเราอยากเกษียณแล้วแต่ทำไม่ได้เพราะไม่มีตังค์ จงช่วยกันบริจาคเหรียญลงในถัง แต่ถ้าไม่มีเหรียญ ให้ตีถังแทน” ผลคือมีคนนับร้อยมาเข้าคิวเพื่อตีถัง แต่ก็ถือว่าไม่มีการประท้วงบนถนน ตำรวจไม่รู้จะจับใคร ก็จับถังขึ้นรถตำรวจแทน กลายเป็นภาพขำขันออกสื่อว่าตำรวจจับกุมถังน้ำมัน ทำให้ตำรวจเสียความเชื่อมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ บางกลุ่มให้ของเล่นออกมาถือป้ายประท้วงแทน เพราะทางการไม่อนุญาตให้ชุมนุม แต่ตำรวจก็ยังไม่อนุญาตให้ใช้ของเล่นประท้วงเช่นกัน เพราะถือว่าของเล่นไม่ใช่พลเมืองรัสเซีย และมีการเขียนใบสั่งเตือน เรื่องนี้ทำให้ทางการดูเป็นตัวตลกตามสื่อ การทำวิดีโอลงเว็บยูทูบก็เป็นอีกวิธียอดนิยมในการต่อต้านรัฐบาล เช่น คลิปโฆษณาสบู่ชิ้นนี้ เมื่อเจ้าของเสื้อเห็นรูปผู้นำอยู่บนเสื้อ จึงรังเกียจและต้องเอาเสื้อไปซักให้ขาวสะอาด

การประท้วงโดยทั่วไปแทบทุกครั้งจะมีคนถูกจับ ยกเว้นกลุ่มบิลเลี่ยนแนร์ฟอร์บุช ที่ต่อต้านนโยบายสนับสนุนคนรวยของประธานธิบดีจอร์จดับเบิ้ลยูบุช พวกเขาไม่เคยถูกจับเลย เพราะตำรวจนิวยอร์กไม่เคยไล่จับคนใส่ทักซิโด้ ซึ่งตรงกับหลักการว่า เวลาประท้วง อย่าแต่งตัวเหมือนนักประท้วง
 
คุณอาจสงสัยว่า คนเหล่านี้มีอารมณ์ขันมากเกินไปรึเปล่า การประท้วงด้วยวิธีขำๆเหล่าจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้จริงหรือ

เสียงหัวเราะอาจดูไม่มีพิษมีภัย แต่ผู้นำเผด็จการก็มักตระหนักถึงพลังของความขำขันไม่น้อย เช่นกรณีภาพยนตร์เรื่อง The Interview ที่จะเข้าฉายในเอเชียต้นปีหน้า มีเนื้อหาล้อเลียนผู้นำเกาหลีเหนือ ซึ่งสร้างความฉุนเฉียวให้กับทางการเกาหลีเหนือจนถึงกับประกาศว่าภาพยนตร์เรื่องนี้เข้าข่ายก่อการร้าย และขู่ให้ทางการสหรัฐฯระงับการฉาย

ภาพยนตร์เรื่อง V for Vendetta มีฉากรายการโทรทัศน์ล้อเลียนผู้นำเผด็จการ แม้จะสร้างความชื่นชอบให้ผู้ชม แต่ภายหลังผู้จัดรายการก็ถูกทางการจับตัวไป สะท้อนความจริงในหลายสังคมว่าไม่มีผู้นำเผด็จการคนไหนอยากเป็นตัวตลก ในบางกรณี การใช้อารมณ์ขันยั่วล้ออำนาจก็อาจสร้างทั้งเสียงหัวเราะและอันตรายต่อตัวเองได้เช่นกัน

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
185Article
76559Video
0Blog