หลายคนคงกำลังสงสัย ว่าทำไม? สำนักข่าวใหญ่ จึงไม่อาจต้านทานกระแส "เหนียวไก่" ของน้องล่าได้ นอกจากนี้ บนเฟซบุ๊กยังเต็มไปด้วยภาพ "ข้าวเหนียวไก่ทอด"
กลายเป็นกระแสฮอตฮิตไปแล้ว สำหรับ คลิป “เหนียวไก่” ของน้องล่า เด็กสาวคนหนึ่ง ที่ถูกมือดีขโมยข้าวเหนียวไก่ทอด หลังจากวางไว้ที่ตะกร้ารถจักรยาน หน้าเซเว่นฯ เหตุการณ์นี้ สร้างความเจ็บใจให้กับน้องล่าเป็นอย่างมากจนต้องอัดคลิประบายความในใจลงบนเฟซบุ๊ก จากนั้น มีการนำไปแชร์ต่อในเพจเฟซบุ๊ก YouLike (คลิปเด็ด) ซึ่งล่าสุดมีผู้กดไลค์แล้วกว่า 200,000 คน แชร์อีกกว่า48,000 ครั้ง ทำให้คลิปดังกล่าวกลายเป็น Viral ชั่วข้ามคืน และทำให้คำว่า "เหนียวไก่" ติดอันดับ1 จากคำค้นหาใน Google ประจำวันที่ 11 พฤศจิกายน 2557
ไม่เพียงแค่นั้นบรรดาสำนักข่าวยักษ์ใหญ่อย่างสำนักข่าวไทย ไทยรัฐ หรือรายการข่าวชื่อดังอย่างเรื่องเล่าเช้านี้ ก็ได้นำเสนอคลิปวีดีโอนี้ด้วยเช่นกันทำให้กระแสของคลิปดังกล่าวกระจายไปทั่วทุกหนทุกแห่ง
และจากกระแสที่ฮอตจนฉุดไม่อยู่นี้ ทำให้มีผู้ตั้งแฟนเพจ “น้องล่า เหนียวไก่” จำนวนหลายเพจด้วยกัน
นอกจากนี้ยังสร้างปรากฏการณ์ “ข้าวเหนียวไก่ฟีเวอร์” ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีการแชร์ภาพ #ข้าวเหนียวไก่ เต็มหน้าไทม์ไลน์บนเฟซบุ๊กในช่วงไม่กี่วันที่ผ่าสนมา รวมถึงมีการนำภาพของน้องล่ามาเขียนล้อเลียน และทำคลิปออกมาเลียนแบบจำนวนมาก
ขณะที่ เว็บไซต์แนะนำร้านอาหารชื่อดัง อย่าง wongnai.com ยังต้านกระแสไม่อยู่ ต้องจัดการรวบรวม 10 อันดับร้านข้าวเหนียวไก่ มาแนะนำขาชิม ล้อไปกับกระแสไก่ทอดฟีเวอร์ในขณะนี้ด้วย
ยิ่งดัง ยิ่งแชร์ ยิ่งไลค์ ยิ่งทำให้หลายคนอยากรู้ว่า “น้องล่า” คนนี้เป็นใครกัน ทำให้ผู้สื่อข่าวไทยรัฐทีวี ได้ตามไปสัมภาษณ์ตัวจริง เสียงจริง พบว่า น้องล่า คือเด็กสาวอายุ 15 ปี เป็นชาวจังหวัดสตูล ซึ่งเจ้าตัวเปิดใจว่า รู้สึกเครียด เนื่องจากถูกมองว่าการโพสต์คลิปดังกล่าวเป็นเพราะอยากดัง พร้อมกันนี้ยังกล่าวขอโทษด้วย ที่ในคลิปต้องพูดจาหยาบคาย นอกจากนี้ ไทยรัฐทีวี ยังพาไปชมร้านข้าวเหนียวไก่ทอดสุดโปรดของน้องล่า ที่เป็นจุดเริ่มต้นของคลิป "เหนียวไก่" อีกด้วย ติดตามชมได้ที่เว็บไซต์ www.thairath.co.th
จากที่ไม่มีใครคาดคิดว่า คลิปของเด็กสาวธรรมดาๆคนหนึ่ง จะกลายเป็นกระแสดังขนาดนี้ ทำให้ "ธาม เชื้อสถาปนศิริ" นักวิชาการประจำ สถาบันวิชาการสื่อสาธารณะ ไทยพีบีเอส ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก Time Chuastapanasiri วิเคราะห์ถึง 10 เหตุผลทางการตลาด ที่ทำให้คลิป "เหนียวไก่" โดนใจชาวโซเชียลเน็ตเวิร์กจนกลายเป็นประเด็นร้อนแรง ดังนี้
1. มันขำ ตลก : Humorous
เนื้อหาเรื่องราวของมันให้อารมณ์ขบขัน ฮา และ เศร้าระคนปนไปด้วย
2. มันจริงใจ ตรงไปตรงมา : To be frank
น้องเขาเล่นเอง เล่าเอง พูดด่าออกมาแบบไม่มีสคริปต์ ไร้บท
3. มันเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ : Emotional
ความหงุดหงิด เศร้า เจ็บใจ โกรธ ขำ งอน เต็มไปหมด คนดูจะสามารถเก็บอารมณ์ซึมซับในนั้นได้ทั้งหมด
4. มันมีความเป็นโอท๊อป : Localization
คือแนวคิดที่พูดเรื่อง เนื้อหาที่สะท้อนความเป็นชุมชน (ความเป็นบ้านๆ) ในคลิป เราจะเห็น "น้องล่า" ความเป็นเด็กใต้ คนใต้ คำใต้ มันออกมาชัดเจนอย่างถึงแก่น
5. มันเป็นเรื่องใก้ลตัว : Surrounding เหตุการณ์นี้ สามารถเกิดขึ้นกับใครก็ได้ นั่นทำให้คนดู สามารถเชื่อมโยงกับประสบการณ์ภายในตนเองได้ (เป็นเรื่องชวนหัวในชีวิติจริง)
6. มันหยาบคาย : Rudeness
ความหยาบคายเป็นส่วนประกอบให้มันเข้าถึงคนดู การมีคำหยาบ ช่วยทลายกำแพงของการปิดกั้น ตั้งป้อมเปิดรับเนื้อหา เพราะใครๆ ก็สามารถใช้ำคำสบถ ด่า ในชีวิตประจำวันได้เผ็ดร้อนได้ปกติ มันจึงดูจริง (เพราะมันจริง)
7. มันมีความลับ : Mysterious
มีความลึกลับ ซ่อนเงื่อน สร้างความสงสัยอยู่ในนั้น ใครคือคนขโมยข้าวเหนียวไก่ ยังคงเป็นปริศนา ที่รอคอยตอนจบ ทำให้เรื่องมีความดึงดูดน่าคนสนใจใคร่รู้
8. มันต่อยอด : User Generated Experience
คลิปนี้ ชาวเน็ต เอาเรื่องราวไปทำต่อ ขยายต่อ เป็นมิวสิกวีดีโอ มีทั้งเพลงแร๊พ มีทั้งเวอร์ชั่นเลียนแบบมากมาย ทำให้ ผู้ชมร่วมกระโจนเข้าสู่การแสดงอารมณ์และความคิดสร้างสรรค์
9. นี่คือตัวอย่างการทำเนื้อหาแบบ "Real Marketing"
มันคือความจริงของเหตุการณ์ น่าเสียดายว่าไม่มีการสนับสนุนทางด้านการตลาดอยู่ในนั้น หากมี มันจะดังระเบิด
10. มันสร้างผลกระทบ : Effect
สำนักข่าว สื่อ ให้ความสนใจ (ตามกระแส ฉาบฉวย) มันมีคุณค่าข่าวในระดับที่เพียงเรียกร้องความสนใจของผู้ชมผู้ฟัง (ถึงแม้ว่ามันจะฉาบฉวยก็ตาม) และตอนนี้ก้มีคนสร้างเพจน้องล่า ลักเหนียวไก่ เป็นแฟนคลับกันจริงๆ จังๆ แล้ว
