ไม่พบผลการค้นหา
"เขยฝรั่ง" เป็นปรากฏการณ์ที่คนไทยคุ้นชินจนกลายเป็นเรื่องธรรมดาของสังคมไปแล้ว คนส่วนใหญ่มักมองว่าฝรั่งที่เข้ามาสร้างครอบครัว ใช้ชีวิตในเมืองไทย เป็นคนที่เกษียณอายุและอยากมาใช้ชีวิตแบบประหยัดในประเทศกำล
"เขยฝรั่ง" เป็นปรากฏการณ์ที่คนไทยคุ้นชินจนกลายเป็นเรื่องธรรมดาของสังคมไปแล้ว คนส่วนใหญ่มักมองว่าฝรั่งที่เข้ามาสร้างครอบครัว ใช้ชีวิตในเมืองไทย เป็นคนที่เกษียณอายุและอยากมาใช้ชีวิตแบบประหยัดในประเทศกำลังพัฒนา แต่ยังมีหลายคน ที่มีเหตุผลน่าสนใจกว่านั้นในการย้านถิ่นฐานข้ามโลกมาฝากชีวิตไว้ที่เมืองไทย 
 
ห่างจากตัวอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมาไปประมาณ 40 นาที ท่ามกลางไร่มันสำปะหลังและไร่ข้าวโพดอันแห้งแล้ง เป็นที่ตั้งของบ้านชั้นเดียวที่แวดล้อมด้วยสวนสวยงามกว้างขวาง หน้าตาไม่ต่างจากบ้านผู้มีอันจะกินในยุโรปหรืออเมริกา ที่นี่คือบ้านของชาร์ลส โกรโลว์ อดีตนายทหารแห่งกองทัพอากาศสหรัฐฯ ผู้ตัดสินใจเดินทางข้ามโลกมาใช้ชีวิตบั้นปลายในเมืองไทย และตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะใช้แผ่นดินไทยกลบหน้า พร้อมกับภรรยาชาวไทยที่อยู่กินกันมาเกือบ 40 ปี
 
พล็อตเรื่องชีวิตของเขยฝรั่งทั่วไป ก็คือชายเกษียณอายุจากประเทศรัฐสวัสดิการในยุโรป หรือสหรัฐฯ ที่ไม่อยากใช้ชีวิตด้วยเงินบำนาญแบบกระเบียดกระเสียนในบ้านเกิด จึงเลือกมาเริ่มชีวิตใหม่ในประเทศกำลังพัฒนาอย่างเมืองไทย  โดยหาผู้หญิงไทยรุ่นลูกแต่งงานด้วย เพื่อให้การลงหลักปักฐาน ซื้อบ้านซื้อที่ดินในเมืองไทยง่ายดายไม่ติดขัด แต่เรื่องราวของชาร์ลสแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง เขาพบกับภรรยาชาวไทยในสหรัฐฯ และที่ตัดสินใจมาใช้ชีวิตในเมืองไทย ก็ไม่เกี่ยวกับการเกษียณอายุหรือการต้องประหยัดเงินทอง แต่เป็นความต้องการของพระเจ้า ที่ทำให้เขาทิ้งชีวิตอันหรูหราในรัฐแมรีแลนด์มาอาศัยอยู่ในย่านชนบทของเมืองไทย
 
ชีวิตของชาร์ลสและคุณนวล ศรีขุนทด ภรรยา เป็นไปอย่างเรียบง่าย เขามีเงินจากการเกษียณอายุมากพอที่จะเลี้ยงครอบครัวได้อย่างไม่เดือดร้อน และใช้เวลาในแต่ละวันไปกับภารกิจตามความเชื่อในพระเจ้า ทุกวันอาทิตย์ ชาร์ลสจะต้องไปโบสถ์ในอำเภอปากช่อง เพื่อสอนภาษาอังกฤษให้เด็กๆที่ไปโบสถ์ โดยใช้คำสอนจากพระคัมภีร์ไบเบิลเป็นสื่อการสอน นอกจากนี้ ชาร์ลสยังมีโครงการใหญ่ที่กำลังเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง นั่นก็คือการทำศูนย์การเรียนรู้ให้เด็กๆในชนบทที่อยู่รอบบ้านของเขา 
 
ที่นี่เป็นที่ดินใกล้บ้านที่ชาร์ลสซื้อไว้ และกำลังระดมทุนจากโบสถ์ในสหรัฐฯบ้านเกิด เพื่อนำมาสร้างเป็นศูนย์การเรียนรู้ของชุมชน ให้เด็กๆแถวนี้ได้มาทำกิจกรรม ทั้งเล่นกีฬา เรียนภาษาอังกฤษ เรียนดนตรี หรือแม้แต่การทำกิจกรรมสันทนาการทั่วๆไป ให้เด็กๆมีพื้นที่สำหรับใช้เวลาหลังเลิกเรียนและในวันหยุดอย่างสร้างสรรค์
 
ชีวิตแบบมิสชันนารี อาจจะแตกต่างจากผู้ชายฝรั่งที่มามีภรรยาและตั้งรกรากในอีสานทั่วๆไป แต่สำหรับชาร์ลส เขาก็ยังถือว่าตัวเองเป็นหนึ่งในบรรดา "เขยฝรั่ง" และรู้สึกไม่สบายใจเลยกับทัศนคติของชายชาวตะวันตก ที่ใช้หญิงไทยเป็นเพียงทางผ่านในการมาเริ่มต้นชีวิตใหม่
 
แม้ว่าชาร์ลสเพียงคนเดียวจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของเขยฝรั่งส่วนใหญ่ในเมืองไทยได้ แต่เขาก็พยายามอย่างเต็มที่ที่จะใช้ความเชื่อทางศาสนาของตนเองเป็นแบบอย่างให้เพื่อนฝรั่งในละแวกบ้าน หันมาให้เกียรติและเคารพในศักดิ์ศรีของภรรยาชาวไทย และใช้ชีวิตอย่างมีความหมาย มากกว่าการตักตวงความสุขในเมืองไทยจนกว่าจะถึงวันสุดท้ายของชีวิต
Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
185Article
76559Video
0Blog