ไม่พบผลการค้นหา
'เศรษฐา' ลุยถกตัวแทนภาคเอกชน-ธุรกิจ จ.พังงา ยืนยันแม้ ‘เพื่อไทย’ ไม่ได้ สส.พร้อมเป็นนายกฯ ของคนไทยทั้งประเทศ ย้ำต้องเพิ่มรายได้ผ่านการท่องเที่ยว รับปากให้ความสำคัญ ครม.สัญจร ดันฟรีวีซ่ากับประเทศกลุ่มเป้าหมายเที่ยวไทยระยะยาว

เมื่อเวลา 10.15 น. วันที่ 26 ส.ค. 2566 ที่โรงแรม Moracea by Khaolak Resort อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานคณะกรรมการนโยบายพรรคเพื่อไทย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยและคณะทำงานด้านนโยบายการท่องเที่ยวพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่รับฟังข้อเสนอแนะจากตัวแทนผู้ประกอบการธุรกิจและเอกชนใน จ.พังงา

1214688_0.jpg

ด้าน กฤษ ศรีฟ้า อดีตผู้สมัคร สส.พังงา พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จ.พังงา มีงบประมาณเรื่องของการจัดการน้ำไว้หลายที่รวมทั้งงบประมาณจัดการน้ำที่เขาหลัก พร้อมทั้งฝากนายกรัญมนตรี ถ้าเป็นไปได้ให้มีการจัดประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)สัญจร เพื่อคืนโอกาสในการพัฒนาต่างๆให้กับ จ.พังงาอีกครั้งหนึ่งแล้ว

ด้าน นายกสมาคมท่องเที่ยว จ.พังงา ระบุว่า เฉพาะภาคใต้มีการท่องเที่ยวชุมชนอยู่ 800 ชุมชน แต่ที่ผ่านมามีปัญหาเรื่องการเข้าถึงตลาด และไม่ได้รับการเข้าถึงโครงการของภาครัฐ เช่น โครงการเราเที่ยวด้วยกัน ซี่งได้แต่โรงแรมอย่างเดียว แต่ชุมชนไม่ได้ พร้อมขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัดที่ช่วยจดทะเบียนการท่องเที่ยวชุมชน

1214685_0.jpg

ด้าน ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จ.พังงา ระบุว่า ในช่วงเดือน ม.ค.จนถึง มิ.ย. 2566 มีตัวเลขรายได้6,300 ล้านบาทสำหรับการท่องเที่ยว พร้อมย้ำว่าการท่องเที่ยวในกลุ่มจังหวัดอันดามันจะสร้างตัวเลขใหม่ 1 ล้านล้านบาทภายในปี 2570 โดยขยายสนามบิน จ.ภูเก็ต 2 ให้มีศักยภาพและพัฒนาแผนรถไฟ และต้องจัดระเบียบขนส่งในภูเก็ต พังงา กระบี่ ไม่ให้นักท่องเที่ยวถูกเอาเอาเปรียบ หากมีขนส่งสาธารณะจะทำให้นักท่องเที่ยวมีทางเลือกมากขึ้น

1214686_0.jpg

ตัวแทนภาคเอกชนยังสะท้อนว่า สถิติการท่องเที่ยว ต.ค.-มิ.ย. 2566 มีรายได้รวม8,000 ล้านบาท ในช่วงโควิด-19 มีนักท่องเที่ยว 4 ล้านคจากประเทศในกลุ่มสแกนดิเนเวีย จีน รัสเซีย และมีนักท่องเที่ยวชาวไทยสงกรานต์มี 30,000-40,000 คนต่อปี และอยากให้ จ.พังงาเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวผ่าน Thailan Travel Mary Plus(TTM+) 2024

จากนั้น เศรษฐา ระบุว่า ตนแปลกใจที่ จ.พังงา ไม่ได้มีนายกรัฐมนตรี มาลงพื้นที่เป็นเวลาหลาย 10 ปีทราบดี แม้ จ.พังงา จะไม่มีสส.พรรคเพื่อไทย แต่ตนก็จะมาอีกครั้งสำหรับ จ.ภูเก็ต จ.พังงา เพราะการลงพื้นที่ครั้งนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเมือง ซึ่งตนจะเป็นนายกฯ ของคนไทยทั้งประเทศ อย่างไรก็ตาม จ.ภูเก็ต ขณะนี้จีดีพีตกต่ำ ดังนั้น ต้องพึ่งการลดหนี้ เพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยวเป็นหลัก ตนไม่ได้มาคนเดียว แต่มากับ นพ.พรหมินทร์ เคยเป็นเลขาธิการนายกฯ และก็มีว่าที่รัฐมนตรีได้มารับฟังข้อเสนอจากที่นี่ด้วย

1214699_0.jpg

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถ้าดูในการเต้บโตโตเศรษฐกิจของจังหวัดและภูมิภสค ผลตอบแทนน่าจะคุ้ม เวลาดูรัฐบาลของพรรคเพื่อไทยหลังถวายสัตย์ฯ เราจะดูองค์รวมทั้งหมด จะไม่ได้ทำเชิงรุกอย่างเดียว ต้องดูปัญหาสิ่งแวดล้อมตามมาด้วย ต้องทำควบคู่การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ และการยกเว้นวีซ่าให้จีน อินเดียว ส่วนรัสเซียเป็นตลาดใหญ่ เราจะขยายให้ท่องเที่ยวในประเทศไทยได้ 90 วัน และคาซัคสถานก็จะเปิดตลาดด้วย ส่วนเรื่องท่องเที่ยวเชิงสุขภาพนั้น ทำให้มีการพักผ่อนระยะยาว เชื่อว่านักท่องเที่ยวต่างประเทศเข้ามาแน่นอน โดยรัฐบาลจะให้ความสำคัญพัฒนาส่วนนี้ด้วย ส่วนอีวีบัส (รถเมล์ไฟฟ้า) ก็สามารถทำได้เลย

1214684_0.jpg

“เรื่อง ครม.สัญจร ก็เป็นเรื่องสำคัญกับจังหวัดนั้น ดารมาคณะเล็กอาจคล่องตัวอาจแยก ครม.เศรษฐกิจ ครม.ความมั่นคง เพื่อความคล่องตัว ซึ่งจะเป็นประโยชน์มากกว่า และจะกลับมาอีกครั้ง” เศรษฐา กล่าว