Daily Brunch ประจำวันที่ 16 กันยายน 2557
แหนมเนือง เป็นอาหารเวียดนามที่คนไทยรู้จักดีที่สุด แต่แหนมเนืองตำรับเวียดนามจริงๆ กลับไม่ใช่อาหารในแบบที่คุณรู้จัก วันนี้คุณพรรณิการ์ วานิช จะพาไปดูวิธีกินแหนมเนืองตำรับเวียดนามใต้ที่นครโฮจิมินห์ จะอร่อยแค่ไหน และมีวิธีการกินเป็นอย่างไร
พูดถึงอาหารเวียดนาม คนไทยส่วนใหญ่ก็จะต้องนึกถึงแหนมเนืองเป็นอย่างแรก ด้วยรสชาติโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ แถมวิธีกินที่ซับซ้อนประดิษฐ์ประดอยต้องห่อเป็นคำ ทำให้แหนมเนืองเป็นหนึ่งในเมนูเวียดนามที่เป็นที่ชื่นชอบของชาวต่างชาติมากที่สุด
แต่ถ้ามาที่เวียดนามจริงๆ คุณจะพบว่าแหนมเนืองไม่ได้มีสูตรสำเร็จแบบเดียว คำว่าแหนมเนืองที่คนไทยเรียก มาจากแนมเนื้อง แปลว่าหมูย่าง ส่วนชาวเวียดนามใต้จะเรียกแนมเนื้องว่า "ทิดเนื้อง" และแนมเนื้องหรือทิดเนื้องก็จะมีวิธีกินหลากหลายรูปแบบ แล้วแต่ว่าจะกินหมูย่างแกล้มกับเส้น แป้ง น้ำจิ้ม หรือผักอะไร
อย่างร้านกว๊านโห่ไต หนึ่งในร้านแนมเนื้องที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงที่สุดของโฮจิมินห์แห่งนี้ เสิร์ฟแนมเนื้องกับบุ๋น หรือขนมจีนเส้นเหนียวนุ่ม เพราะฉะนั้นหน้าตาของแนมเนื้องที่นี่ก็จะไม่เหมือนกับแนมเนื้องที่เรารู้จักอย่างสิ้นเชิง ที่นี่เสิร์ฟอาหาร 3 อย่างหลักๆ คือบุ๋นทิดเนื้อง หรือขนมจีนกับหมูย่าง บุ๋นจ๋า ขนมจีนกับหมูทอด และบุ๋นจ๋าส่อ หรือขนมจีนกับปอเปี๊ยะทอด โดย "จ๋าส่อ" แปลว่าปอเปี๊ยะทอด
นอกจาก 3 เมนูนี้ ยังมีอาหารขึ้นชื่อของร้าน ที่เป็นของกินเล่น หรือกินคู่กับแนมเนื้อง นั่นก็คือ "บั๋นเติม" หรือเค้กกุ้ง สูตรบั๋นเติมนี้เป็นสูตรลับเฉพาะของทางร้านที่อร่อยไม่เหมือนใคร ใช้มันเทศหั่นเป็นแท่งยาว วางเรียงกัน แล้วชุบแป้งสูตรพิเศษที่ผสมจากแป้งข้าวเจ้าและแป้งสาลี วางกุ้งไว้ด้านบน แล้วนำไปทอดด้วยน้ำมันหมูในไฟอ่อน จนได้บั๋นเติมกรอบหอม กินกับน้ำจิ้มแนมเนื้อง ได้รสชาติเปรี้ยวหวานบวกกับความหอมของกุ้ง และความกรอบนอกนุ่มในของมันเทศชุบแป้งทอด เข้ากันดีกับแนมเนื้องที่เต็มไปด้วยผักสด
บุ๋นแนมเนื้องหรือบุ๋นทิดเนื้องของที่นี่ จะเสิร์ฟมาในถาดขนาดใหญ่ ประกอบด้วยขนมจีน ผักสารพัดชนิดที่ล้วนเป็นผักกลิ่นหอม เช่นสะระแหน่ญวน โหระพา ยี่หร่า ส่วนเส้นสีเขียวนี่คือผักบุ้งหั่นฝอย แต่พระเอกของชุดแนมเนื้องก็คือหมูย่างเตาถ่าน หรือแนมเนื้อง ซึ่งมีทั้งแบบหมูปั้นก้อนและหมูหั่นเป็นชิ้น ย่างเตาถ่านร้อนๆหอมกรุ่น ส่วนนางเอกก็คือน้ำจิ้ม ที่ไม่ใช่น้ำจิ้มข้นๆแบบบ้านเรา แต่เป็นน้ำจิ้มใสคล้ายอาจาด ที่เรียกว่าหนึกจ๊าม ทำจากน้ำปลาและน้ำตาลเคี่ยว ใส่หัวไชเท้าและแครอทคล้ายอาจาด แต่ไม่เปรี้ยว มีเพียงรสเค็มกับหวานเท่านั้น
คนเวียดนามนิยมกินแนมเนื้องเป็นอาหารกลางวัน ในขณะที่ชอบกินเฝอช่วงเช้า เพราะแนมเนื้องเป็นอาหารมื้อที่ไม่หนักและไม่เบาจนเกินไป แต่มื้อกลางวันที่ร้านกว๊านโห่ไตในวันนี้คนไม่มากนัก เพราะตามธรรมเนียมของคนพุทธมหายานในเวียดนาม จะกินเจกันเดือนละ 4 ครั้ง คือวันแรก วันที่ 14-15 และวันสุดท้ายของเดือน ทำให้ในวันกินเจเหล่านี้ คนไม่นิยมมาร้านแนมเนื้อง แต่จะทำอาหารกินที่บ้านหรือกินร้านอาหารเจแทน หากใครได้มีโอกาสมาที่โฮจิมินห์ซิตี แล้วอยากลองแนมเนื้องต้นตำรับไซ่ง่อนที่ร้านนี้ ก็ลองเลือกวันกินเจ เพราะไม่งั้นคุณอาจจต้องต่อคิวยาวจนหายหิวไปเลยก็ได้