Voice Outing ประจำวันที่ 13 กันยายน 2557 : "ซับลังกา" ป่าสมบูรณ์ผืนสุดท้ายของลพบุรี
Voice Outing ประจำวันที่ 13 กันยายน 2557
นอกจากจะเป็นเมืองประวัติศาสตร์ และมีความโดดเด่นด้านวัฒนธรรมแล้ว จังหวัดลพบุรี ยังเป็นที่ตั้งของป่าสมบูรณ์ผืนสุดท้ายของพื้นที่ภาคกลางตอนบน นั่นคือ ผืนป่าซับลังกา ซึ่งปัจจุบันเป็นที่อยู่ของสัตว์ป่า และเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ
1 ชั่วโมง คือ เวลาเดินทางโดยรถยนต์ จากตัวเมืองลพบุรี ถึง อำเภอลำสนธิ ซึ่งเป็นที่ตั้งของ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกา เป้าหมายการเดินทางของทีมข่าววอยซ์ทีวีในสัปดาห์นี้ครับ
การสำรวจธรรมชาติของผืนซับลังกา จำเป็นต้องเดินทางด้วย รถกระบะของเจ้าหน้าที่ หรือรถของชาวชุมชนที่ชำนาญเส้นทางเท่านั้น เนื่องจากเส้นทางค่อนข้างคดเคี้ยว ยากลำบาก และที่สำคัญคือ ตลอดเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่เรานั่งรถผ่านมา
คือ ที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า ที่อาจตื่นคนได้ง่าย คนขับรถจึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ส่วนนักท่องเที่ยวเองก็ห้ามส่งเสียงดัง หรือ แสดงอาการที่เป็นการรบกวนสัตว์ป่าโดยเด็ดขาด
โชคดีที่วันนี้ อากาศแจ่มใส ท้องฟ้าปลอดโปร่ง การเดินทางกว่า 10 กิโลเมตรของเรา จึงค่อนข้างราบรื่น
แถมระหว่าง เรายังพบกับฝูงผีเสื้อ ที่กำลังหาอาหารบริเวณผิวดิน ซึ่งมีเกลือและสารอาหารจากฉี่ของสัตว์ ในปริมาณที่สูงมาก แต่ถ้าใครมาช่วงฝนตกหรือหลังฝนตก ก็อาจไม่ได้เห็นภาพเหล่านี้ เนื่องจากผีเสื้อจะหลบความชื้นจากฝน ป้องกันปีกของมันเปียก
ตอนนี้รถของเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกา พาเราไต่ไปตามเขา ซึ่งสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 400 เมตร เพื่อพิสูจน์ความสมบูรณ์ของป่าผืนสุดท้ายในพื้นที่ภาคกลางตอนบนแห่งนี้ การเดินทางขึ้นเขาเรียกว่าทรหดมาก เส้นทางบางส่วนยังปกคลุมด้วยต้นไม้ จนเจ้าหน้าที่จำเป็นจะต้องเคลียร์ให้รถกระบะ สามารถไต่ไปได้ แต่หลังใช้เวลาประมาณ 15 นาที เราก็เดินทางถึงจุดชมวิว "เขาผากลาง"
ด้านหน้าของเราตอนนี้ คือ ความเขียวขจีของป่าเต็งรังผสมป่าดิบแล้ง ขนาดกว่า 9 หมื่นไร่ ที่ในอดีตเคยเป็นส่วนหนึ่งของผืนป่าดงพญาเย็น-ดงพญาเย็น หากการตัดถนนเพื่อขยายความเจริญ ส่งผลให้ป่าผืนใหญ่ถูกแบ่งเป็นผืนย่อย ทั้งยังเกิดการบุกรุกพื้นที่ จนครั้งหนึ่งป่าซับลังกากลายสภาพเป็นป่าเสื่อมโทรม ก่อนได้รับการฟื้นฟูให้กลับมาสมบูรณ์ และเป็นที่อยู่สัตว์ป่าอีกครั้ง เมื่อ 30 ปีที่ผ่านมา
ทิวเขาที่ขณะนี้ถูกปกคลุมด้วยหมอกอย่างงดงาม เขาพังเหย ซึ่งเป็นที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม สถานที่ชมทุ่งกระเจียวที่งดงามของจังหวัดชัยภูมิ นั่นหมายความว่า ป่าซับลังคือพื้นที่เชื่อมต่อระหว่างภาคกลางกับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกา เล่าให้ฟังว่า ในอดีต เขาพังเหย ที่อยู่ตรงหน้าเราในขณะนี้ เคยเป็นเส้นทางเคลื่อนย้ายประชากรและวัฒนธรรม ในยุคเขมรเรืองอำนาจ เรื่อยมาถึงสมัยกรุงศรีอยุธยา จากการเคลื่อนพลยกทัพผ่านช่องเขาทั้ง 20 ช่อง
จุดหมายต่อไปของเราคือ สำรวจป่าต้นน้ำ ครับ ซึ่งต้องใช้การเดินเท้าไปตามป่าดงดิบประมาณ 1 กิโลเมตร แต่ก่อนถึงเป้าหมาย พวกเราก็ตื่นตาตื่นใจกับความใหญ่โตของ ต้นยางนา ที่คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวบริเวณทางเข้า หลายคนให้สมญานามพืชชนิดนี้ว่า พญาไม้แห่งเอเชียอาคเนย์ เพราะลำต้นที่สูงสง่าและมีขนาดใหญ่โต ส่วนนี่คือลำต้นยางนาอายุกว่า 200 ปี ที่ล้มตายเนื่องจากไฟไหม้ป่า ตอนนี้เหลือไว้เพียงซากให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชม และศึกษาร่องรอยจากความสูญเสียครั้งนี้
มีคนเคยบอกว่าครับว่า การเดินป่าให้สนุก ต้องรู้จักสังเกตสิ่งแวดล้อมรอบตัวให้ละเอียด ก่อนถึงพื้นที่ต้นน้ำ บริเวณน้ำตาผาผึ้ง เราก็พบกับสิ่งมีชีวิตเล็กๆมากมาย ในเขตป่าดิบแล้ง แต่ที่น่าสนใจที่สุดคือ
เห็ดสีแดงส้มเหล่านี้ นี่คือ เห็ดแชมเปญ หรือ บางคนเรียกว่า เห็ดถ้วย ที่มักเติบโตในป่าดิบที่มีความชื้นสูง บรรดานักเดินป่าและคนรักการถ่ายรูปจะรู้จักเห็ดชนิดนี้เป็นอย่างดี เนื่องจากลักษณะทางกายภาพที่น่ารัก สีสันสดใส ตัดกับบรรยากาศของสภาพป่า แต่ขอเตือนไว้ก่อนนะครับว่า เห็ดแชมเปญรับประทานไม่ได้โดยเด็ดขาด
ความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าซับลังกา นอกจากช่วยหล่อเลี้ยงสัตว์ป่าและพืชพันธุ์ ให้เติบโตและขยายพันธุ์ เพิ่มความหลากหลายของระบบนิเวศแล้ว ผืนป่าซับลังกา ยังเป็นป่าต้นน้ำของภาคกลาง ที่ช่วยหล่อเลี้ยงชีวิตประชาชนให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ นี่คือ น้ำตกผาผึ้ง ส่วนหนึ่งของพื้นที่ต้นน้ำในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกา น้ำใสไหลเย็นที่เห็นอยู่นี้ จะไหลตามคลองแพ่งสายเล็กสายน้อย แล้วไหลรวมกันที่แม่น้ำป่าสัก บางส่วนไหลลงเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ซึ่งล้วนเป็นแหล่งน้ำสายสำคัญของคนไทย และมวลมนุษยชาติ
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกา อำเภอลำสนธิ จังหวัดลพบุรี สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปีครับ นอกจาก เส้นทางศึกษาธรรมชาติที่ทีมข่าววอยซ์ทีวีพามาสำรวจในครั้งนี้แล้ว ที่นี่ยังกิจกรรมสำหรับนักท่องเที่ยวอีกมากมาย ทั้งชมทะเลหมอก นอนกางเต้นท์ ดูทุ่งกระเจียวใหญ่ และสำรวจพรรณป่าไม้หายาก อย่างกล้วยไม้รองเท้านารีเหลืองปราจีน
ส่วนนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักค้างแรม ก็สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ได้โดยตรง เพื่อขอเช่าเต้นท์และสถานที่กางเต้นท์ นอกจากนี้ ยังมีบ้านพักบรรยากาศใกล้ชิดป่าให้เลือกพักอีกด้วย