culture corner ประจำวันที่ 4 กันยายน 2557
ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา จีนต้องเผชิญกับแรงกดดันทั้งจากในและนอกประเทศ จากการไม่ยอมให้ฮ่องกงมีการเลือกตั้งผู้ว่าการเกาะอย่างเสรี โดยสื่อและนักการเมืองฝ่ายจีนแผ่นดินใหญ่พยายามบอกว่าการเลือกตั้งที่ปักกิ่งมอบให้ฮ่องกงเป็นประชาธิปไตยเพียงพอแล้ว ประชาธิปไตยแบบจีนๆที่คลอดจากครรภ์เผด็จการจะเป็นอย่างไร
เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่มีมติครั้งประวัติศาสตร์ ไม่ให้ฮ่องกงได้เลือกตั้งผู้ว่าการเกาะอย่างเสรี 100% ในการเลือกตั้งโดยตรงครั้งแรกในปี 2560 ที่จะถึงนี้ โดยแม้จะมีการอนุญาตให้ชาวฮ่องกงได้เลือกผู้ว่าฯโดยตรงอย่างเสมอหน้ากันเป็นครั้งแรก แต่ก็กำหนดกรอบว่าผู้สมัครรับเลือกตั้งจะมีเพียง 2-3 คน และต้องได้รับการกลั่นกรองจากรัฐบาลจีนที่ปักกิ่งก่อน ว่ามีความจงรักภักดีต่อรัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่อย่างเต็มที่
ชาวฮ่องกงจำนวนมากแสดงความไม่พอใจอย่างชัดเจนต่อการตัดสินใจของรัฐบาลจีน โดยยืนยันว่านี่ไม่ใช่การปกครองแบบ 1 ประเทศ 2 ระบบ ตามที่จีนเคยให้คำมั่นสัญญาไว้ว่าจะปกครองฮ่องกงอย่างให้อิสระเสรี เมื่อครั้งที่ฮ่องกงหลุดจากการปกครองของอังกฤษกลับคืนสู่อ้อมอกจีน แต่เป็นระบอบเผด็จการที่ไม่ฟังเสียงประชาชน
นายเหลียงชุนอิง ผู้ว่าการเกาะฮ่องกงคนปัจจุบัน พยายามออกมาปกป้องจีนแผ่นดินใหญ่ ว่าการให้สิทธิเลือกตั้งแก่พลเมืองฮ่องกง ก็ถือเป็นประชาธิปไตยเพียงพอแล้ว เมื่อประชาชนได้สิทธิเลือกตั้ง ก็ไม่ควรจะต้องเรียกร้องอะไรอีก ขณะที่หนังสือพิมพ์ฝ่ายรัฐบาลพรรคคอมมิวนิสต์ ก็ประโคมโหมข่าวอย่างพร้อมเพรียงกันว่าการประท้วงโดยผู้ที่ไม่พอใจจีนแผ่นดินใหญ่ต่างหาก ที่ละเมิดประชาธิปไตย โดยมีการการทำตัวเป็นอันธพาลทางความคิด ครอบงำความคิดเห็นของคนส่วนใหญ่ในสังคมที่อาจจะพอใจแล้วกับการเลือกตั้งแบบที่ปักกิ่งมอบให้ แต่ไม่กล้าแสดงออก
นอกจากนี้ ผู้ประท้วงฝ่ายประชาธิปไตยในฮ่องกงยังเจอข้อหาไม่เคารพหลักนิติรัฐ และสร้างความปั่นป่วน ทำลายความสงบสุขปรองดองในสังคมอีกด้วย
จากปฏิกิริยาเหล่านี้ สรุปได้ง่ายๆว่า ประชาธิปไตยแบบที่คลอดออกมาจากระบอบเผด็จการสังคมนิยมที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกอย่างจีน ก็คือการให้มีการเลือกตั้ง แต่เป็นการเลือกตั้งที่ผ่านการออกแบบมาอย่างดี มีกระบวนการคัดกรองผู้สมัครว่าจะให้คนที่ลงเลือกตั้งมีใครบ้าง เรียกว่าไม่ว่าผลการเลือกตั้งจะเป็นอย่างไรก็ไม่น่ากังวลสำหรับรัฐบาลจีน
ส่วนการประท้วงและการเมืองบนท้องถนนในภาคประชาชน ไม่ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของประชาธิปไตย แต่เป็นการก่อกวนปั่นป่วนสังคม และเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ทำลายความสงบของบ้านเมือง รวมถึงการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ แถมยังทำลายหลักนิติรัฐ หนึ่งในเสาหลักของประชาธิปไตยอีกด้วย
คนจำนวนหนึ่งที่รักความสงบอาจเห็นด้วยกับประชาธิปไตยแบบจีนๆที่ว่ามานี้ แต่สำหรับชาวฮ่องกงส่วนใหญ่ มองว่าหากได้ประชาธิปไตยเช่นนี้ พวกเขาคงไม่มีวันได้รัฐบาลที่เป็นตัวแทนประชาชนอย่างแท้จริง และคะแนนเสียงเลือกตั้งก็จะมีค่าเป็นเพียงเครื่องมือสร้างความชอบธรรมให้กับผู้ว่าฯภายใต้ร่มเงาเผด็จการปักกิ่งเท่านั้น