อำนาจทางการเมือง ณ ขณะนี้ ผูกขาดอยู่ที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้สวมบทบาทผู้นำระดับสูงของประเทศถึง 3 ตำแหน่ง
อำนาจทางการเมือง ณ ขณะนี้ ผูกขาดอยู่ที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้สวมบทบาทผู้นำระดับสูงของประเทศถึง 3 ตำแหน่ง คือ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ, นายกรัฐมนตรี และผู้บัญชาการทหารบก หมวกทั้งสามใบจะให้อำนาจพลเอกประยุทธ์อย่างไรบ้าง
นับแต่การเข้าควบคุมอำนาจ วันที่ 22 พฤษภาคม 2557 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา คือหนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลของประเทศ ณ ขณะนี้ ไล่เรียงตั้งแต่ตำแหน่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ตามด้วยตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และผู้บัญชาการทหารบก ซึ่งทั้ง 3 ตำแหน่งนี้ คือที่สุดของการเป็นผู้ปกครอง
แต่หมวก ที่ครอบไว้ทุกอณูแห่งอำนาจก็คือ หัวหน้า คสช. ซึ่งมีอำนาจเบ็ดเสร็จ
ทั้งด้านบริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการ ตามรัฐธรรมนูญชั่วคราว มาตรา 44
นอกจากนี้ยังมีอำนาจแต่งตั้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ, สภาปฏิรูปแห่งชาติ และบังคับใช้ประกาศ คสช. ควบคู่ไปกับรัฐธรรมนูญชั่วคราวนี้ได้อีกด้วย
โดยวันเข้าสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นทางการ พลเอกประยุทธ์ ย้ำสถานะของ คสช.จะต้องทำงานคู่ขนานไปกับการมีคณะรัฐมนตรีบริหารประเทศ
ส่วนตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก ยังเป็นที่ถูกจับตาว่าจะมีการต่ออายุราชการ พลเอกประยุทธ์ ซึ่งกำลังจะเกษียณลงในเดือนกันยายนนี้หรือไม่
ยังไม่นับรวมตำแหน่งประธานบอร์ด หลังขึ้นกุมอำนาจประเทศ รวมถึงตำแหน่งที่ได้มาโดยตำแหน่ง เช่นประธานบอร์ดช่อง 5 จากตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก
ในแง่กฎหมาย หมวก 3 ใบที่พลเอกประยุทธ์สวมอยู่นี้ มีภาระและหน้าที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ซึ่งในยุคหนึ่ง จอมพลถนอม กิตติขจร ผู้นำกองทัพที่เป็นทั้งนายกรัฐมนตรีในคราวเดียวกัน เคยกล่าวไว้ว่า ภาระหน้าที่ของผู้บัญาชาการทหารกับนายกรัฐมนตรีนั้นต่างกันมาก
ผู้บัญชาการทหาร ดูแล สั่งการทหารเพื่อบรรลุเป้าหมายทางทหาร แต่นายกรัฐมนตรีต้องรู้และทำได้มากกว่าผู้บัญชาการทหาร ต้องรับผิดชอบประนีประนอม ต่อความต้องการที่หลากหลายของคนทั้งประเทศ เมื่อทหารมาเป็นนายกรัฐมนตรีก็ต้องละทิ้งความเคยชิน ภาระหน้าที่และวิธีการแบบทหารเสีย