หลังจากเกิดกระแสต่อต้านอาคารสูง "วอเตอร์ฟรอนท์ สวีท แอนด์ เรสซิเดนซ์ ท่าเรือแหลมบาลีฮาย"  ซึ่งบดบังจุดชมวิว เมืองพัทยา และล่าสุด นายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา สั่งระงับการก่อสร้างอาคารดังกล่าวแล้ว 

 

บริษัท ทิวลิป กรุ๊ป กลุ่มทุนอิสราเอล ดำเนินธุรกิจในไทย ตั้งแต่ปี 2545 เน้นสร้างคอนโดมีเนียมในพื้นที่พัทยา ทั้งหมด 9 แห่ง หรือ 80% และในกรุงเทพมหานคร 1 แห่ง รวมมูลค่าการลงทุน 13,320 ล้านบาท

 

ทิวลิป กรุ๊ป เริ่มทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในไทย ด้วยการร่วมทุนกับ "รอนนี่ ไฟน์แมน" เจ้าของโนวา กรุ๊ป ประเทศไทย ในสัดส่วน 50:50 เพื่อร่วมลงทุนสร้างโรงแรมหลายแห่งในพัทยา เช่น เดอะ คลิฟ ,อมารี เรสซิเดนซ์ พัทยา ,โนวาน่า เรสซิเดนซ์ , โนวา โอเชียนวิว , ฮอลิเดย์ อินน์ เอ็กซ์เพรส และเซ็นทรา สุขุมวิท 15 กทม. 

       

แต่โครงการที่ทิวลิป กรุ๊ป ลงทุนเองก็มี เช่น เซ็นทารา แกรนด์ รีสอร์ท แอนด์ เรสซิเดนซ์ พัทยา , เซ็นทารา อะเวนิว เรสซิเดนซ์ แอนด์ สวีท , เซ็นทารา แกรนด์ เขาพระตำหนัก พัทยา และเซ็นทารา บูติคคอลเล็คชั่น               

 

ในช่วงปี 2554  ทิวลิป กรุ๊ป เริ่มลงทุนโครงการมิกซ์ยูส โดยเลือกใช้ "เชนเซ็นทารา"  เข้ามาบริหาร 5 แห่ง เนื่องจากเป็นเชนไทย ทำให้เข้าถึงตลาดคนไทยได้ง่าย และไว้วางใจแบรนด์เซ็นทาราอยู่แล้ว

       

ในปี 2556 ทิวลิป กรุ๊ป พัฒนาโครงการมิกซ์ยูส ในพัทยา 2 โครงการ คือ โครงการ เซ็นทารา แกรนด์ เรสซิเดนซ์ นาจอมเทียน พัทยา  พื้นที่ 20 ไร่  อาคารแรก สูง 46 ชั้น มียอดขายแล้ว 70% และอาคารที่สอง สูง 39 ชั้น เพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม เจาะตลาดบ้านหลังที่ 2 และตลาดต่างประเทศ  นอกจากนี้ ยังมีโรงแรมอีก 1 อาคาร รวมมูลค่าโครงการ 5,600 ล้านบาท คาดว่าจะสร้างแล้วเสร็จในเดือนมิถุนายน ปี  2558 

 

ส่วนอีกโครงการที่กำลังเกิดกระแสต่อต้านจากคนในพื้นที่ในตอนนี้ คือ วอเตอร์ฟรอนท์ สวีท แอนด์ เรสซิเดนซ์ ท่าเรือแหลมบาลีฮาย เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปี 2547 เป็นคอนโดมิเนียม 1 อาคาร ห้องพัก 315 ห้อง  ความสูง 53 ชั้น  มียอดขายแล้ว 60% และโรงแรมอีก 1 อาคาร จำนวน 100 ห้องพัก คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จเดือนธันวาคม  2558 

 

เกือบทั้งหมดเป็นห้องชุดวิวทะเล เห็นอ่าวพัทยาและตัวเมืองพัทยาได้ทั่ว รวมถึงทิวทัศน์ของเกาะล้าน เกาะครก เกาะไผ่ และอยู่ใกล้กับสวนน้ำ "การ์ตูนเน็ตเวิร์ค อะเมโซน"

 

ราคาขายเฉลี่ย อยู่ที่  1 แสน 5 หมื่น 5 พันบาท ต่อตารางเมตร โดยห้องชุดแบบสตูดิโอเริ่มต้น 6 ล้านบาท   ,ห้องชุด 1 ห้องนอน ราคา 11 ล้านบาท, แบบ 2 ห้องนอน 15 ล้านบาท และ เพนท์เฮ้าส์ ดูเพล็กซ์ ราคา 100 ล้านบาท   เฉลี่ยแล้ว  ราคาสูงกว่าคอนโดไฮเอนด์ของพัทยา ที่ขายเฉลี่ย 1 แสนบาทต่อตารางเมตร

 

ปัจจุบันมีผู้ประกอบการใหญ่หลายราย เข้ามาลงทุนอสังหาฯ ในพัทยาทั้ง แอล.พี.เอ็น, แสนสิริ,  และ ไรมอนแลนด์  แต่เน้นพัฒนาคอนโดระดับกลาง-ล่าง