กระทรวงวัฒนธรรม แจง 6 สัญลักษณ์ทางพระพุทธศาสนา ที่ห้ามสักบนร่างกายและการนำไปใช้ในที่ไม่เหมาะสม
วันนี้ (1มิ.ย.) นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) กล่าวถึงกรณีการร้องเรียนเกี่ยวกับการสักภาพ (Tattoo) สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในศาสนา บนร่างกายหรือในที่ไม่เหมาะสมที่จังหวัดภูเก็ตว่า เมื่อมาตรการทางกฎหมายอาญาไม่สามารถเข้าไปดูแลได้ ตนจะประสานไปยังกระทรวงสาธารณสุข (สธ.)ให้ตรวจสอบหรือวิเคราะห์ว่าการสักเช่นนี้อาจจะเสี่ยงต่อการติดเชื้อหรือไม่ เพื่อเป็นการป้องกันเบื้องต้น
ซึ่งที่ผ่านมามีการนำสัญลักษณ์ทางพระพุทธศาสนามาเป็นตราสินค้าหรือประดับสถานที่ที่ไม่เหมาะสม เช่น รองเท้า ถุงเท้า กางเกง เสื้อ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ร้านค้า สถานบันเทิง สถานเริงรมย์ รวมทั้งมีการเผยแพร่ทางสื่อสิ่งพิมพ์ สื่อโทรทัศน์ และสื่ออินเทอร์เน็ต พร้อมกันนี้จะประสานไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดเชิญผู้ประกอบการมาชี้แจงและขอความร่วมมือในการใช้สัญลักษณ์ทางศาสนา โดยเริ่มที่จังหวัดภูเก็ตก่อน เพราะเท่าที่ทราบนอกจากคนไทยแล้ว ชาวต่างชาติแถบสแกนดิเนเวียชอบสักพระพุทธรูปตามบริเวณต่างๆในร่างกายมาก ที่สำคัญ วธ. จะจัดทำคู่มือข้อควรระวังในการใช้สัญลักษณ์ทางพระพุทธศาสนา ที่มีอยู่เดิมแล้วนำมาพิมพ์ใหม่ ประมาณ 10,000เล่มเพื่อแจกจ่ายไปตามสถานประกอบการ ร้านค้าที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการใช้สัญลักษณ์ทางพระพุทธศาสนา มีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
รมว.วธ.กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ สัญลักษณ์ทางพระพุทธศาสนาที่ไม่ควรนำมาใช้ในเชิงพาณิชย์
1.พระพุทธรูปปางต่างๆ
2.พุทธพจน์ เถรภาษิต และเถรีภาษิต
3.พระสงฆ์ ภาพถ่าย ภาพวาด สิ่งประดิษฐ์คล้ายพระสงฆ์ บริขารของพระสงฆ์ เช่น ไตรจีวร และบาตร
4.การแต่งการเลียนแบบพระสงฆ์ หรืออ้างตัวเองว่าเป็นพระสงฆ์ในบทภาพยนตร์ที่ไม่เหมาะสม
5.โบสถ์ วิหาร เจดีย์ทางพระพุทธศาสนา
6.ธรรมจักรและธงฉัพพรรณรังสี
สถานที่ที่ไม่ควรนำสัญลักษณ์ทางพระพุทธศาสนามาใช้ในเชิงพาณิชย์
1.โรงงานและร้านจำหน่ายแอลกอฮอล์
2.ร้านอาหาร โรงภาพยนตร์ โรงละคร สถานบันเทิง
3.โรงฆ่าสัตว์และบ่อนการพนันทุกชนิด
4.ห้องน้ำและห้องสุขา
ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ควรนำสัญลักษณ์ทางพระพุทธศาสนามาใช้เชิงพาณิชย์
1.เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ วัตถุมึนเมา ยาพิษและอาวุธ
2.เสื้อ กางเกง ชุดชั้นใน รองเท้า เครื่องสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ ห้องสุขา
3.เก้าอี้และเตียงนอน รวมทั้งสื่อสิ่งพิมพ์และสื่ออิเล็กทรกนิกส์ที่ไม่ควรนำสัญลักษณ์ทางพระพุทธศสนามาใช้ในเชิงพาณิชย์
ด้าน น.ส.ลัดดา ตั้งสุภาชัย ผู้อำนวยการศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรม กล่าวว่า ตนได้รับมอบหมายจากนายนิพิฏฐ์ รมว.วธ.และนายสมชาย เสียงหลาย ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ให้ดูแลเรื่องดังกล่าว ขณะนี้ทราบว่าได้มีหนังสือด่วนไปยังผู้ว่าราชการจ.ภูเก็ต ให้เร่งเชิญผู้ประกอบการร้านค้า มาประชุมภายในเดือนมิถุนายน 2554นี้ เพื่อชี้แจงและทำความเข้าใจ โดยเฉพาะเรื่องสิทธิเสรีภาพต้องอยู่ในขอบเขตของกฎหมาย และไม่กระทำการใดๆกับทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
Source:Bangkokbiznews/VoiceTV(image)