อิสราเอลเป็นประเทศที่มีทรัพยากรจำกัด แต่ต้องทำสงครามกับเพื่อนบ้านอยู่ตลอดเวลา ดังนั้น กำลังสำรองเพื่อใช้ในการทำสงครามจึงต้องมีประสิทธิภาพมากที่สุด ระบบกำลังสำรองของอิสราเอลที่ได้ชื่อว่าดีที่สุดในโลกจะ
อิสราเอลเป็นประเทศที่มีทรัพยากรจำกัด แต่ต้องทำสงครามกับเพื่อนบ้านอยู่ตลอดเวลา ดังนั้น กำลังสำรองเพื่อใช้ในการทำสงครามจึงต้องมีประสิทธิภาพมากที่สุด ระบบกำลังสำรองของอิสราเอลที่ได้ชื่อว่าดีที่สุดในโลกจะเป็นอย่างไร ติดตามได้จากรายงาน
อิสราเอลเป็นประเทศขนาดเล็กในตะวันออกกลางที่มีทรัพยากรจำกัด มีประชากรเพียง 8 ล้านคนเท่านั้น แต่ต้องทำสงครามกับประเทศเพื่อนบ้านในโลกอาหรับอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่การก่อตั้งประเทศเมื่อ 66 ปีก่อน ด้วยขีดจำกัดนี้เอง ทำให้อิสราเอลต้องระดมทรัพยากรทุกชนิดที่มีอยู่ และอาศัยระบบกำลังสำรองที่มีประสิทธิภาพ เพื่อรับมือกับภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบัน กองทัพอิสราเอลจะมีทหารอาชีพประจำการเพียงร้อยละ 30 หรือประมาณแสน 7 หมื่นนาย โดยอีกร้อยละ 70 หรือประมาณ 4 แสน 5 หมื่นนาย เป็นทหารกองหนุนที่จะถูกเรียกเข้าประจำการในยามสงครามหรือสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งตามกฎหมายการรับราชการทหารระบุว่า ชายชาวอิสราเอลที่มีอายุ 18-54 ปี และหญิงที่มีอายุ 18-34 ปี ทุกคนต้องเข้าเป็น "ทหารกองหนุน" แม้ว่าจะเคยเกณฑ์ทหารมาแล้วก็ตาม
ในแต่ละปี กฎหมายได้กำหนดให้ทหารกองหนุนต้องเข้ารับการฝึกเพื่อเตรียมความพร้อมปีละ 42 วัน และถ้าหากมีความจำเป็นก็อาจขยายเวลาการฝึกออกไปเป็น 60 วัน ซึ่งขึ้นอยู่กับหน่วยที่กองหนุนประจำการ ในแต่ละครั้งจะมีการจัดการฝึกครั้งละ 2-3 วัน ส่วนหลักสูตรการฝึกจะถูกแบ่งออกเป็น 2 หลักสูตรคือ หลักสูตรเบื้องต้นและหลักสูตรก้าวหน้า โดยการฝึก 2 หลักสูตรนี้จะสลับปีเว้นปี เนื่องจากมีงบประมาณจำกัด
ด้วยระบบการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ การเรียกระดมพลพร้อมรบของอิสราเอลจะใช้เวลาเพียง 18-24 ชั่วโมงเท่านั้น โดยนายทหารกองหนุนที่ได้รับมอบให้เรียกพล จะสามารถดำเนินการเรียกพลที่ประจำการในหน่วยของตนเองแทนทหารประจำการได้ภายใน 6-8 ชั่วโมง ซึ่งถือว่าเป็นระบบรวดเร็วและดีที่สุดในโลกขณะนี้
ในอดีต ทหารกองหนุนจำนวนมากถูกเรียกระดมพลเพื่อทำสงครามมาแล้วหลายครั้ง เช่น สงครามหกวันในปี 2511 ขณะเดียวกัน ทหารกองหนุนยังสามารถเข้าประจำการในหน่วยอื่นๆนอกกองทัพได้ด้วย เช่น สำนักนายกรัฐมนตรี ตำรวจตระเวนชายแดน และมอสสาดหรือหน่วยสืบราชการลับของอิสราเอล
ที่สำคัญที่สุด ระบบกำลังสำรองของอิสราเอล เป็นหนึ่งในวิธีการลดขนาดกองทัพและทหารประจำการให้น้อยลง เพื่อประหยัดงบประมาณ แต่นำงบประมาณเหล่านั้นไปสร้างเสริมเทคโนโลยีทางทหารและพัฒนาบุคคลากรให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งยังสามารถรักษาความพร้อมรบของกองทัพไว้ได้ตลอดเวลาอีกด้วย
ประสิทธิภาพการรบอันเต็มร้อยเช่นนี้ ทำให้ชาวอิสราเอลมีความเชื่อมั่นในกองทัพของตนเองอย่างมาก และความเชื่อมั่นนี้ แม้ว่าจะส่งผลดีต่ออิสราเอลในด้านความมั่นคงของรัฐบาลและกองทัพ แต่ในทางกลับกัน ก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้อิสราเอลมักไม่ยึดมั่นในนโยบายเจรจาทางการทูตเท่ากับการทหาร และทำให้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ กลายเป็นความขัดแย้งที่เรื้อรังที่สุดในการเมืองโลกมาจนถึงทุกวันนี้