ไม่พบผลการค้นหา
สุพรีเดอร์ม ธุรกิจขายตรง ประกาศปิดกิจการ สิ้นเดือนกรกฎาคมนี้ หลังเปิดดำเนินธุรกิจมานานกว่า 27 ปี โดยเตรียมโอนย้ายผู้บริหารและสินค้าไปจำหน่ายกับกิฟฟารีน

สุพรีเดอร์ม ธุรกิจขายตรง ประกาศปิดกิจการ สิ้นเดือนกรกฎาคมนี้ หลังเปิดดำเนินธุรกิจมานานกว่า 27 ปี โดยเตรียมโอนย้ายผู้บริหารและสินค้าไปจำหน่ายกับกิฟฟารีน

แพทย์หญิง นลินี ไพบูลย์ ประธานกรรมการบริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ เปิดเผยว่า บริษัท สุพรีเดอร์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ธุรกิจขายตรงของพันตำรวจโท นายแพทย์ มั่น อุดมพาณิชย์ ประธานกรรมการบริหาร ของ สุพรีเดอร์มฯ และ เป็นอดีตสามี ได้ประกาศปิดกิจการอย่างเป็นทางการ สิ้นเดือนกรกฎาคมนี้ หลังเปิดดำเนินธุรกิจมานานกว่า 27 ปี เนื่องจากไม่มีความถนัดในการดำเนินธุรกิจเครือข่ายขายตรง แต่ถนัดในการพัฒนาผลิตภัณฑ์มากกว่า

โดยทางสุพรีเดอร์ม ได้จ่ายเงินชดเชยให้กับพนักงานบริษัท 300 คน ตามอายุงาน และที่ผ่านมา สมาชิกของสุพรีเดอร์ม มีกว่า 2 หมื่นคน แต่จะเลือกเฉพาะระดับผู้บริหารกว่า 2,000 คน โอนมาอยู่กับกิฟฟารีนตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคมนี้ ในตำแหน่งที่เทียบเท่ากัน รวมทั้งสุพรีเดอร์ม จะโอนสินค้าที่ได้รับความนิยมกว่า20 รายการ มาให้กิฟฟารีน เป็นผู้ทำตลาดให้ และปัจจุบันสินค้าเหล่านั้นได้ผลิตโดยโรงงานของกิฟฟารีนอยู่แล้ว

ก่อนหน้านี้ ทางสุพรีเดอร์มเพิ่งออกสินค้า เครื่องดื่มสมุนไพรปัณจะ ภูตะ ซึ่งมี "ก้อง-สหรัฐ สังคปรีชา" นักแสดงและนักร้องชื่อดัง เป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้า โดยมีสัญญา 1 ปี และแอ๊ด คาราบาว แต่งเพลงให้กับผลิตภัณฑ์ดังกล่าวด้วย

และเป็นที่น่าสังเกตว่า ปีนี้มีธุรกิจขายตรงปิดกิจการ เช่น บริษัท นูทรี เมติคส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย)  และบริษัท คามิโอเฮ้าส์ เปลี่ยนแปลงธุรกิจเป็นขายปลีกแทน

นางภคพรรณ ลีวุฒินันท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท นูสกิน เอ็นเตอร์ไพร์ส ประเทศไทย และเวียดนาม ในฐานะนายกสมาคมการขายตรงไทย คาดว่า ธุรกิจขายตรงในปีนี้ จะเติบโต 5-7% จากปี 2556 ที่มีมูลค่า 70,000 ล้านบาท และปัจจุบันบริษัทขายตรง จะขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มอาเซียน เพื่อกระจายความเสี่ยง และรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC

ด้าน ร.ต.ไพโรจน์ คนึงทรัพย์ ผู้อำนวยการศูนย์คุ้มครองผู้บริโภคด้านธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ.ระบุว่า 6 เดือนแรกของปีนี้ มีบริษัทขายตรงยื่นขอจดทะเบียนใหม่ 88 ราย ส่วนใหญ่เป็นคนไทย ได้รับอนุมัติแล้ว 34 ราย และมีที่ยื่นขอยกเลิกกิจการ 63 ราย ถูก สคบ.เพิกถอน 6 ราย เพราะประกอบธุรกิจไม่ตรงตามที่ขออนุญาต ดำเนินคดีไป 1 ราย รวมธุรกิจขายตรงขึ้นทะเบียนไว้เกือบ 1,000 ราย และยังดำเนินธุรกิจอยู่ 353 ราย โดยสคบ.เตรียมแยกการกำกับดูแลธุรกิจขายตรงจาก สำนักกฎหมายและคดี จะแยกออกมาเป็นกองคุ้มครองผู้บริโภคด้านธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

Source :  http://www.youtube.com/watch?v=_UqOBoI-MTw
              http://www.youtube.com/watch?v=UWZjXK9Em5A
              http://www.youtube.com/watch?v=8JT0_UpnguY

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
190Article
76559Video
0Blog